ติดฟิล์มโทรศัพท์แบบไหนดี พร้อมแนะนำแบรนด์ฟิล์มคุณภาพดี ฮิตติดตลาด
เลือกฟิล์มกันรอยให้ดี งานนี้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย!
ตั้งแต่ที่สมาร์ทโฟนเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น การใช้มือถือแบบทัชสกรีนกลายเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันในชีวิตประจำวันกันซะแล้ว แถมยังทำให้ “ฟิล์มกันรอย” กลายเป็นไอเทมเสริมสุดฮิต เพราะแน่นอนว่าหลายคนอาจจะกลัวรอยขีดข่วน จอแตก จากการทำโทรศัพท์ตก หรือกระแทก การติดฟิล์มกันรอยช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันฟิล์มกันรอยโทรศัพท์ มีให้เลือกหลายรูปแบบมาก ๆ วันนี้ผมเลยจะชวนทุกคนมาเลือกฟิล์มกันรอยให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองเพิ่มขึ้น ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย!
ฟิล์มกันรอยแบบใส สามารถป้องกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอได้ด้วยการเคลือบฟิล์มแข็งบาง (Hard Coating) เนื้อฟิล์มติดง่าย ป้องกันการเกิดรอยบนแผ่นฟิล์มด้วยครับ ถือเป็นฟิล์มกันรอยขั้นเบสิกที่หลายคนนิยมใช้ เพราะเมื่อติดแล้วหน้าจอยังคมชัด สีสันสดใสเหมือนปกติ โดยตัวแผ่นฟิล์มจะมีความใสและบางเป็นพิเศษ นอกจากนี้แผ่นฟิล์มกันรอยยังช่วยกรอง UV ที่มาจากหน้าจออีกด้วย จึงช่วยถนอมสายตาได้ในระดับหนึ่ง
และด้วยความคมชัดของหน้าจอและสีสันนี่แหละครับ ที่ผมว่าน่าจะตอบโจทย์สายซีรีส์ หรือเกมเมอร์ ที่ใช้งานสมาร์ทโฟนเพื่อความบันเทิงโดยเฉพาะ เพราะไม่ทำให้เสียอรรถรสอย่างแน่นอน แต่อาจจะต้องระวังการเกิดรอยนิ้วมือ คราบมัน คราบเหงื่อ ที่อาจเกิดขึ้นได้ง่าย จนทำให้เราต้องเช็ดหน้าจอบ่อย ๆ กันด้วยนะครับ
ฟิล์มกันรอยแบบด้าน เป็นฟิล์มกันรอยที่เมื่อแปะแล้วอาจจะไม่คมชัดเท่าฟิล์มแบบใส แต่ยังสามารถมองเห็นและใช้งานได้ตามปกติ โดยข้อดีคือยังช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ และคราบมันบนเนื้อฟิล์มได้พอสมควร อีกทั้งยังลดแสงสะท้อนบนหน้าจอได้ดีใช้งานกลางแจ้งได้สะดวกมาก ซึ่งฟิล์มกันรอยแบบด้านมาพร้อมคุณสมบัติกันรอยขีดข่วนสูง และยังช่วยถนอมสายตา ทั้งนี้หากเราเลือกซื้อฟิล์มที่คุณภาพไม่ดี ก็อาจจะทำให้การแสดงผลบนหน้าจอมีสีที่ผิดเพี้ยนได้เช่นกัน
โดยฟิล์มด้านตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลายเลยครับ เช่น คนรักความสะอาด ไม่ชอบให้มีคราบมัน หรือคราบอื่น ๆ ที่มักจะติดอยู่บนฟิล์ม เหมือนเวลาใช้แบบใส หรือใครที่ต้องทำงาน ใช้สมาร์ทโฟนเกือบตลอดเวลา การใช้ฟิล์มด้าน ก็ช่วยลดแสงสะท้อนบนหน้าจอ และถนอมสายตาของคุณได้มากขึ้นด้วยนะครับ
ฟิล์มน้ำ หรือฟิล์มไฮโดรเจล (Hydrogel Film) คือ ฟิล์มกันรอยรูปแบบใหม่ ที่จุดเด่นคือบางเฉียบจนเหมือนกับไม่ได้ติด ทำให้เราสัมผัสความคมชัด และสีสันของหน้าจอได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมาพร้อมกับความแข็งแรง ทนทาน ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับฟิล์มกระจกด้วยนะครับ โดยตัวฟิล์มน้ำสามารถรับแรงกระแทกได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งในท้องตลาดที่มีขายในปัจจุบันมีทั้งแบบใสและแบบด้าน ให้เลือกใช้งานอีกด้วย
จริง ๆ ต้องบอกเลยว่าฟิล์มน้ำ อาจจะเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปอยู่แล้ว แต่ด้วยความบางของฟิล์มชนิดนี้ เราสามารถมั่นใจได้เลยว่าไม่มีปัญหาฟิล์มขอบลอย หรือ ฟิล์มดันเคสโทรศัพท์ เลยครับ ใครที่กังวลเรื่องการใช้งานตรงนี้ก็สบายใจได้เลย
ฟิล์มกันรอยแบบป้องกันความเป็นส่วนตัว ปกติแล้วฟิล์มทุกชนิดจะสามารถมองเห็นหน้าจอได้จากทุกมุมตามปกติใช่ไหมครับ แต่สำหรับฟิล์มกันรอยชนิดนี้ จะสามารถมองเห็นหน้าจอสมาร์ทโฟนได้แค่มุมด้านหน้าเท่านั้น หากมองจากมุมข้าง หรือมุมอื่น ๆ จะมองเห็นเป็นแค่จอมืด ๆ นั่นเอง เพื่อป้องกันผู้อื่นแอบดูหน้าจอ
ใครที่หวงความเป็น Privacy ให้ความสำคัญเป็นส่วนตัวมาก ๆ ฟิล์มกันรอยชนิดนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้มากเลยครับ ยิ่งถ้าต้องใช้สมาร์ทโฟนท่ามกลางฝูงชนอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะบนรถสาธารณะ หรือสถานที่ต่าง ๆ ก็ค่อนข้างตอบโจทย์เลยทีเดียว
เห็นคุณสมบัติของฟิล์มกันรอยชนิดต่าง ๆ รวมถึงข้อแนะนำกันไปแล้ว น่าจะพอเลือกกันได้แล้วนะครับว่าฟิล์มกันรอยแบบไหนที่มีฟังก์ชันเหมาะกับการใช้งานของเรา ยังไงอย่าลืมเลือกใช้ให้ตรงกับความชอบและไลฟ์สไตล์ของตัวเองกันด้วยนะครับ งานนี้จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนกันบ่อย ๆ แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานให้สมาร์ทโฟนของคุณได้อีกด้วยนะครับ
10 อันดับ ฟิล์มกระจก ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 กันรอยขีดข่วน ไม่ทิ้งรอยนิ้วมือ
ฟิล์มกระจก เป็นไอเทมสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานสมาร์ตโฟนให้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสมัยนี้ที่ไม่ว่าโทรศัพท์มือถือแบรนด์ไหน ๆ ก็ทำเป็นหน้าจอทัชสกรีนกันหมดด้วยแล้ว การติดฟิล์มกระจก Android จึงช่วยปกป้องหน้าจอสมาร์ตโฟนของเราได้เป็นอย่างดี เพราะค่าเปลี่ยนจอสมาร์ตโฟนนั้นแพงกว่าการติดฟิล์มกระจกมือถือหลายเท่า
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกฟิล์มกระจก ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ และเรายังได้รวบรวม 10 อันดับ ฟิล์มกระจก จากแบรนด์ยอดนิยมในราคาที่สมเหตุสมผลอย่าง Focus, HI-SHIELD, NILLKIN ฯลฯ มาฝากทุกคนกันอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยค่ะ !
ติดฟิล์มโทรศัพท์แบบไหนดี พร้อมแนะนำแบรนด์ฟิล์มคุณภาพดี ฮิตติดตลาด
มือถือสมาร์ทโฟนเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ทุกการสื่อสารกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทุกวันนี้เราสามารถใช้มือถือเครื่องเดียวคุยโทรศัพท์ ส่งไฟล์ภาพ เสียง เล่นเน็ต ฟังเพลง ดูหนังและซีรีย์ หรือแม้แต่อ่านหนังสือ Ebook แต่เพราะการใช้งานที่เหมือนเป็นปัจจัยที่ 5 แบบนี้ การปกป้องหน้าจอมือถือจากรอยขีดข่วนจากการใช้งานจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่ละเลือกติดฟิล์มโทรศัพท์แบบไหนดี เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีฟิล์มมือถือก็พัฒนาไปไกล ShopBack Blog เลยอยากชวนเพื่อนๆ มาหาคำตอบกันค่ะว่า จะติดฟิล์มกันรอยยี่ห้อไหนดี เลือกเลือกฟิล์มแบบไหนให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานของเราที่สุด
ขอเริ่มกันที่แบรนด์ฟิล์มกันรอยที่เชื่อว่าคนใช้มือถือสมาร์ทโฟนต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีกับแบรนด์ Focus ไฮไลท์เด็ดๆ ของเขาก็คือบรรดาฟิล์มกระจกนิรภัยที่ช่วยปกป้องหน้าจอมือถือจากการกระแทกและการร่วงหล่นจนหน้าจอแตกได้เป็นอย่างดี แต่นอกจากฟิล์มกระจกแล้ว เขายังมีฟิล์มทั้งแบบใสและแบบด้าน รวมถึงออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างฟิล์มกันรังสี UV มาให้เลือกใช้งานด้วย ข้อดีของแบรนด์นี้คือเป็นฟิล์มกันรอยมาตรฐาน 9H แทบทุกรุ่น มีความเหนียว ทน ช่วยปกป้องหน้าจอได้ดี และยังมีความยืดหยุ่นมากกว่าฟิล์มกันรอยกระจกทั่วไปด้วย ใครที่อยากรู้ว่าจะเลือกติดฟิล์มโทรศัพท์แบบไหนดี ฟิล์มกระจกของ Focus ก็ยืนหนึ่งในด้านนี้อยู่เหมือนกันนะคะ
มาถึงอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและฮิตไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแกร่งของฟิล์มกระจกด้วย แบรนด์ Gorilla มีไฮไลท์ที่น่าสนใจอยู่ที่ฟิล์มกันรอยที่มีให้เลือกหลายรุ่น รองรับมือถือทั้งระบบ Android และ iOS นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติครอบคลุมการใช้งานหลายอย่าง สามารถติดแบบเต็มจอหรือไม่เต็มจอก็ได้ แถมยังมีนวัตกรรมกาวแบบ UV นั่นคือติดทน ไม่ละลายแม้เจอแสงแดดและอากาศร้อน ช่วยปกป้องหน้าจอมือถือของเราได้อย่างมั่นใจ
มาถึงแบรนด์ฟิล์มกันรอยที่มาจากญี่ปุ่นกันบ้าง ใครที่กำลังลังเลว่าจะติดฟิล์มกันรอยยี่ห้อไหนดี Bull Armors ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ เพราะเขามาพร้อมสโลแกน ติดง่าย สัมผัสลื่น ที่เป็นไฮไลท์จุดขายเด็ดๆ ของแบรนด์นี้เลย ส่วนตัวฟิล์มของแบรนด์จะเป็นฟิล์มกันรอยแบบเต็มจอและเน้นขายฟิล์มกระจกเป็นหลัก ผลิตจากวัสดุ Japan Asahi (AGC) คุณภาพระดับดีเยี่ยมมาตรฐานญี่ปุ่น พร้อมการรับรองมาตรฐานความแกร่งระดับสากลอยู่ที่ 9H+ จึงมั่นใจเรื่องความแข็งแรงได้เลย นอกจากนี้ยังให้สัมผัสที่บางและเป็นธรรมชาติ เคลือบสาร Hydrophobic และ Oleophobic ที่ช่วยกันน้ำ กันลื่น กันเหงื่อได้ดี ที่สำคัญก็คือสั่งซื้อออนไลน์แล้วสามารถติดตั้งเองได้ง่ายมากๆ ไม่ต้องง้อร้านเลยค่ะ
ถ้าถามว่าใช้ iPhone แล้วจะเลือกติดฟิล์มกันรอยยี่ห้อไหนดีก็ต้อง Belkin นี่แหละ สาวก iOS ต้องรู้จักกันดีแน่ๆ สำหรับฟิล์มกันรอยจากแบรนด์ Belkin ที่สามารถติดตั้งผ่าน Belkin TrueClear Pro Advanced Screen Care เครื่องติดตั้งฟิล์มเฉพาะของแบรนด์ หรือจะนำมาติดตั้งด้วยตัวเองก็ไม่มีปัญหาเรื่องความยุ่งยาก แต่ถ้าใครอยากแปะฟิล์มแบบสวยๆ ก็ไปติดตั้งได้ที่ True Shop ที่มีการร่วมรายการกับ Belkin กว่า 20 สาขาทั่วประเทศไทย ส่วนเรื่องคุณภาพของฟิล์มไม่ต้องพูดถึง เพราะ Apple Online Store ขายเองผ่านเว็บไซต์ Official จึงมั่นใจและการันตีเรื่องความบาง ทนทาน และปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วนได้แน่นอน
มาถึงแบรนด์ฟิล์มกันรอยแบรนด์สุดท้ายที่เราอยากแนะนำอย่าง Hi-Shield ที่เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มาพร้อมมาตรฐานความแข็งแกร่งระดับ 9H การันตีความแกร่ง ทน เหนียว ไม่ฉีกขาดหรือแตกง่าย ส่วนฟิล์มกระจกของแบรนด์มีการเคลือบสาร Gorilla Glass อีกชั้นจึงทนทานยาวนาน แถมยังเด่นเรื่องการรับประกันหลังการขายด้วยนะ ใครอยากรู้ว่าติดฟิล์มโทรศัพท์แบบไหนดีที่มีการรับประกันหลังการขายให้อุ่นใจก็เลือกแบรนด์นี้ได้เลย
เป็นฟิล์มกันรอยพื้นฐานที่เรารู้จักกันดี ฟิล์มใสมีข้อดีในเรื่องความคมชัดของสีสันและรูปภาพ ให้สีสด ไม่เพี้ยน เหมาะกับการดูรูป วิดีโอ ดูซีรีย์ รวมถึงคนที่ชอบการวาดหรือแต่งรูปบนมือถือค่ะ ใครที่สงสัยว่าไลฟ์สไตล์ของเราจะติดฟิล์มโทรศัพท์แบบไหนดี ถ้าเพื่อนๆ ชอบทำกิจกรรมเหล่านี้ฟิล์มใสก็ถือว่าตอบโจทย์ แต่อาจจะมีข้อด้อยเล็กๆ ตรงนี้เวลาใช้งานนอกบ้านหน้าจอจะสะท้อนแสงได้ง่ายจนรบกวนการมองเห็นค่ะ
ฟิล์มประเภทนี้จะไม่มีการสะท้อนแสงจึงกลบข้อด้อยของฟิล์มแบบใสได้ดี แต่แน่นอนค่ะว่าก็ต้องแลกมากกับภาพที่ดรอปลงเล็กน้อย สีสันที่ไม่สดและไม่คมชัดอย่างที่ควรเป็น จึงไม่เหมาะกับสายอาชีพที่ต้องทำงานกราฟิกหรือแต่งรูปนะคะ แต่ถ้าดูหนัง ซีรีย์ หรือเล่นเกม คุณภาพสีที่ดรอปลงเล็กน้อยนั้นก็ไม่มีผลเท่าไรค่ะ (แต่ถ้าใครซีเรียสก็เลือกฟิล์มแบบใสจะสบายใจที่สุดจ้า)
ฟิล์มที่ผลิตจากพลาสติกจะมีความบางและตอบสนองการทัชสกรีนได้ดีกว่าเวลาสัมผัสไม่ว่าจะใช้ปากกาสไตล์ลัสหรือใช้นิ้ว มีราคาถูก หาซื้อง่าย และซื้อได้ทั่วไป แต่ข้อเสียก็คือมักเกิดรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วนได้ง่าย แถมยังติดยากเพราะเกิดฟองอากาศง่ายเวลาติด จึงต้องใช้ความชำนาญเวลาติดฟิล์มและต้องเปลี่ยนฟิล์มใหม่บ่อยๆ แต่ด้วยความที่ทำให้ทัชจอได้แม่นยำจึงเหมาะกับคนที่ทำงานกราฟิกหรือต้องเขียนงาน จดโน้ตผ่านมือถือมากๆ ค่ะ
ฟิล์มเนื้อแก้วหรือฟิล์มกระจกนิรภัยมีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันจอแตกหรือหน้าจอร้ายโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าจะทำตก หล่น กระแทกกับอะไรก็ตาม หากมีฟิล์มกระจกก็มั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าหน้าจอมือถือของเราจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ช่วยปกป้องหน้าจอได้ดีที่สุดในบรรดาฟิล์มกันรอยประเภทต่างๆ ติดฟิล์มง่าย สามารถติดเองได้เพราะเกิดฟองอากาศน้อยกว่าแบบพลาสติก ส่วนระดับความคงทนแข็งแรงก็สามารถดูได้จากค่าตัวเลข H เช่น 8H, 9H ยิ่งค่าตัวเลขมากยิ่งมีความแข็งแรงมากขึ้น
รู้จักกับประเภทของฟิล์มกันรอยและแบรนด์ฮิตๆ ในท้องตลาดกันไปแล้ว คราวนี้ใครที่กำลังสงสัยว่าจะติดฟิล์มโทรศัพท์แบบไหนดีก็คงได้คำตอบกันแล้วนะคะ แต่สุดท้าย ShopBack Blog อยากฝากไว้อีกสักนิด ถึงเราจะติดฟิล์มกันรอยแล้วก็ไม่ได้แปลว่าจะป้องกันโทรศัพท์จอแตกหรือจอร้าวได้ 100% นะคะ เพราะฉะนั้นใช้อย่างระมัดระวังให้ดีที่สุดเอาไว้ก่อนจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสี่ยงเสียค่าเปลี่ยนหรือซ่อมจอใหม่ยังไงหล่ะ
Comments
Post Comments