อาจจะมีแตกต่างกันในแต่ละรุ่น และยี่ห้อ แต่โดยหลักๆ แล้วจะมีอุปกรณ์ดังนี้

• สายชาร์จ เพื่อเอามาใช้กับโทรศํพท์ ของเรา หรืออาจจะเป็นหัวต่อ แบบต่างๆ ( ในส่วนนี้เราสามารถใช้สายของเราที่มากับโทรศัพท์แทนได้ ) และจะมีสายชาร์จสำหรับชาร์จไฟเข้าแบตสำรองด้วย

• เตรียมสายที่จะใช้กับมือถือของเราก่อน จากนั้นหาช่องที่เขียนว่า OUT หรือเป็นช่อง ไฟออกนั่นเอง ที่ตัวแบตสำรอง บางรุ่นอาจจะมี 2 ช่อง แต่ละช่องจะจ่ายกระแสไฟออกมาไม่เท่ากัน อันนี้ต้องดูว่าเราจะใช่ช่องไหน

• ใน powerbank แต่ละรุ่นจะมีตัวบอกว่า ตอนนี้แบตสำรองของเราเหลือพลังงานเท่าไรแล้ว บางรุ่นจะเป็นจอ lcd บางรุ่นก็อาจจะเป็นไฟ ดวงๆ นะครับ

• มองหาช่องที่เขียนว่า IN หรือเป็นช่องสำหรับ ไฟเข้านั่นเอง จะเป็นช่องเล็กๆ จากนั้นให้เราไปดูสายชาร์จ หรือหัวต่อที่ได้มากับตัวแบตสำรอง หาอันที่เสียบกันได้ เอาสายหัวเล็กเสียบกับตัวแบตสำรอง จากนั้นอีกด้านเราก็ไปเสียบกับหัวชาร์จ ของโทรศัพท์มือถือ ของเราได้เลยครับ

• จากนั้นก็รอจนกว่าจะเต็ม ซึ่งอาจจะใช้เวลานานสักนิดนึง ขึ้นอยู่กับความจุของแบตสำรองนั่นเอง

**หมายเหตุ เพื่อยึดอายุการทำงานของ PowerBank อย่าใช้ powerbank จะหมด เพราะจะทำให้แบตเสื่อมเร็ว พยายามชาร์จเมื่อ Powerbank ใกล้หมด หรือ เมื่อมีโอกาสทันที

• None หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมกับการเล่นเกม หรือชาร์จแบตเตอรี่พร้อมใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ใช้งาน 3G แบบต่อเนื่องนานๆเป้นชั่วโมงโดยเด็ดขาด จะทำให้แบตเตอรี่บวมและเสื่อมอย่างรวดเร็ว

• None การชาร์จโทรศัพทืในรถสามารถทำได้ แต่ต้องสตาร์ทรถให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจึงเสียบสายชาร์จ เมื่อชาร์จโทรศัพท์ในรถเป็นประจำให้ปิด-เปิดเครื่องใหม่บ้างเพื่อให้เปอร์เซนต์ของแบตเตอรี่แสดงสถานะได้อย่างถูกต้อง

• None ห้ามใช้ที่ชาร์จที่มีแรงดันมากกว่าที่กำหนด อาจทำให้เกิดอันตรายได้

• None ไม่ควรเก็บแบตเตอรี่ไว้ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง หรือในรถที่มีอากาศร้อนไม่ถ่ายเท

คำถามที่เจอบ่อย วิธีการใช้แบตสำรองที่ถูกวิธีและปลอดภัย

ตอบ สินค้าในร้านเราเป็นสินค้าของ แท้ 100 % สามารถเช็ครหัสกับเว็ปได้ทุกก้อน โดยการันตรีถ้าปลอมคืนเงิน

ตอบ ถ้าลูกค้ายังไม่มีเป้าหมายชัดเจน ลองพิจาณเรื่อง

3.4 เป็นคนที่อุปกรณ์ IT มากขนาดไหน เช่น โทรศัพท์ 2 เครื่อง Ipad และอื่น ๆ

3.5 ขนาด และน้ำหนัก เพราะแบตที่มีแอมป์เยอะ ขนาดก็จะใหญ่ด้วย นะ

ตอบ แบตสำรอง Eloop ทุกก้อนจะมีพลังงานอยู่ในแบตสำรองอยู่แล้วประมาณ 25-75% ดังนั้น เมื่อคุณได้แบตสำรองมาคุณสามารถใช้งานได้เลยนะ และให้ชาร์ตแบตก็ต่อเมื่อประมาณแบตต่ำกว่า 25 % และการชาร์ตแบตสำรอง

ทางร้านแนะนำให้ใช้ adapter ที่เป็นของแท้ของโทรศัพท์จะดีที่สุด หรือ ให้เลือก adapter เกรดดี หน่อยราคาควร (200 กว่า) เพราะของปลอมราคาถถูก ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย อันตรายเป็นอย่างมาก เพราะ กระแสที่ชาร์ตไม่ถึงปริมาณที่บอกไว้ และอาจจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจร และไม่ควรชาร์ตแบตสำรองกับคอมพิเตอร์เพราะพอร์ตคอมพิเตอร์มีกระแสแค่ 0.5 A น้อยมาก และเลือก adapter ให้เหมาะกับ input ของแบตสำรองด้วย นะ เช่น E13 input 1A ใช้ adapter รุ่นที่มีoutput 1 A และ 2.1A ได้นะ แต่ถ้าเป็นรุ่น E14 input เป็น 1.5 A แนะนำให้คุณใช้ adapter ของ ipad หรือ รุ่นที่ output 2.1A นะค่ะ (สำคัญมากกก)

เรื่องของสายชาร์ตก็มีผลต่อการชาร์ตแบตสำรอง เพราะสายชาร์ตราคาถูก ขนาดสายทองแดงจะมีขนาดเล็ก และ ฉนวนก็จะบางไม่ได้มาตรฐาน เมื่อชาร์ตจะทำให้กระไหลไม่สะดวก ทำให้แบตเต็มช้า และ ฉนวนก็บางทำให้ใช้งานไปจะทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร และทำให้เป็นอันตรายต่อแบตสำรองและโทรศัพท์ และเรื่องการระเบิดได้ (สำคัญรองลงมา)