Power bank เลือกพาวเวอร์แบงค์ยี่ห้อไหนดี อัพเดทล่าสุดธันวาคม 2564

Power bank เลือกพาวเวอร์แบงค์ยี่ห้อไหนดี อัพเดทล่าสุดธันวาคม 2564

Power Bank ที่ถูกใจ หาใช่ดูแต่ที่ความจุเท่านั้น

เมื่อการใช้งานโทรศัพท์ในสถานการณ์ฉุกเฉินอาจไม่เป็นใจด้วยจำนวนแบตเตอรี่ที่ไม่พอเพียง สิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่ปัญหาจุกจิกกวนใจ หากคุณใช้งาน พาวเวอร์แบงค์ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนี้ ที่มีให้คุณเลือกสรรค์จากหลากหลายแบรนด์ ถ้าคุณผู้อ่านไปถามใครต่อใครว่าควรจะใช้

แต่คุณผู้อ่านรู้หรือไม่ว่า การใช้งานพาวเวอร์แบงค์นั้นควรมีหลักที่ควรสนใจมากกว่านั้น ในการใช้งานโทรศัพท์มือถือของเราที่ในยุคนี้ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้งานในรุ่นที่มีราคาสูง สเปคดี แต่กับการเลือกพาวเวอร์แบงค์สักชิ้นนั้น คนส่วนใหญ่กลับมองหาแต่ชนิดราคาถูก นึกไปเพียงว่าเสียเงินให้กับมือถือไปเยอะแล้ว ยังต้องมาเสียเงินจำนวนมากให้กับอุปกรณ์เสริมอีกทำไมกัน นั่นเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก เมื่อการใช้งานโทรศัพท์ในสถานการณ์ฉุกเฉินอาจไม่เป็นใจด้วยจำนวนแบตเตอรี่ที่ไม่พอเพียง สิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่ปัญหาจุกจิกกวนใจ หากคุณใช้งาน พาวเวอร์แบงค์ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนี้ ที่มีให้คุณเลือกสรรค์จากหลากหลายแบรนด์ ถ้าคุณผู้อ่านไปถามใครต่อใครว่าควรจะใช้ Power bank ยี่ห้อไหนส่วนใหญ่มักให้คำตอบไปในทางที่แนะนำว่าควรหายี่ห้อที่หาง่าย ราคาถูก หรือ ให้ความจุที่เยอะเพียงอย่างเดียว เป็นตัวเลือกหลักแต่คุณผู้อ่านรู้หรือไม่ว่า การใช้งานพาวเวอร์แบงค์นั้นควรมีหลักที่ควรสนใจมากกว่านั้น ในการใช้งานโทรศัพท์มือถือของเราที่ในยุคนี้ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้งานในรุ่นที่มีราคาสูง สเปคดี แต่กับการเลือกพาวเวอร์แบงค์สักชิ้นนั้น คนส่วนใหญ่กลับมองหาแต่ชนิดราคาถูก นึกไปเพียงว่าเสียเงินให้กับมือถือไปเยอะแล้ว ยังต้องมาเสียเงินจำนวนมากให้กับอุปกรณ์เสริมอีกทำไมกัน นั่นเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก

ควรจะมีหรือไม่

1. บอกปริมาณแบตที่ยังใช้ได้ คงไม่ดีเท่าไหร่นัก ถ้า Powerbank ให้คุณโยนหินถามทางไปเอง ต้องคอยคาดเดาว่า Powerbank มีความจุเหลืออยู่เท่าไหร่ ที่จะพอใช้ไปจนถึงตอนเย็นหรือไม่ ลองหยิบ Powerbank ของคุณขึ้นมาเช็คดูว่ามีเสียบกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้งานแล้ว มีไฟแจ้งเตือนปริมาณแบตที่เหลืออยู่จำนวนเท่าไหร่ เพราะถ้าไม่มีคุณก็คงต้องเปลี่ยนใหม่แน่นอน คงไม่มีใครอยากถือแบตสำรองเปล่าๆ ออกจากบ้านแน่นอน

2. ตัดไฟเมื่อชาร์จแบตเต็มแล้ว

3. ระบบป้องกันไฟลัดวงจร แบตสำรองไฟไหม้ แบตสำรองระเบิด คุณคงจะได้เห็นได้ยินข่าวเหล่านี้อยู่เป็นประจำ มักเกิดขึ้นกับ พาวเวอร์แบงค์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่มีระบบป้องกันไฟลัดวงจรอีกด้วย ถ้าการใช้แบตมือถือในบ้าน เรียกได้ว่าน่ากลัวแล้ว แบตสำรองระเบิดก็น่ากลัวไม่ต่างกัน ทางที่ที่ดีควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนซื้อ

4. ความสามารถในการจ่ายไฟ แบตเตอรี่สำรองทุกยี่ห้อ ควรระบุความสามารถในการจ่ายไฟที่แตกต่างกันด้วย เพราะแบตสำรองบางรุ่นอาจจ่ายไฟได้สูงถึง 2.1 A ซึ่งความสามารถในการจ่ายไฟปริมาณเท่านี้เหมาะสำหรับไอแพด หรือโทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบัน หากนำไปชาร์จกับมือถือรุ่นเก่าๆ ที่ต้องการกำลังการชาร์จไฟในปริมาณที่น้อยลง ผลที่ตามมาก็คือ แบตสำรองอาจจะระเบิด ไฟไหม้ ช็อต หรือไฟฟ้าลัดวงจรได้

5. ระบุระยะเวลาประกันที่ชัดเจน สินค้าหลายประเภทมักจะระบุระยะเวลาประกันที่ชัดเจน ยิ่งเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ด้วยล่ะก็ยิ่งต้องมี คุณควรสังเกตให้ดีก่อนซื้อว่าแบตสำรองมีระยะเวลาประกันที่ระยบุเอาไว้ไหม เพราะถ้าเสียหายขึ้นมาก็ไม่สามารถเรียกร้องกับใครได้ หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือถ้ายังอยู่ในระยะเวลาก็สามารถเปลี่ยนหรือคืนได้ ถ้าเกิดปัญหาขึ้น

มอก. บังคับใช้เพื่อแบตสำรองโดยเฉพาะ คงจะทำให้คนที่ใช้งานแบตสำรองบ่อย ๆ อุ่นใจขึ้นบ้าง เพราะล่าสุด มอก. เห็นชอบให้ปรับปรุงขอบข่ายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแบตเตอรี่สำรองไฟฟ้า สำหรับการใช้งานกพกพา ซึ่งคุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย มาตรฐานเลขที่ มอก.2879-25xx หรือมาตรฐาน Powerbank ตามความเห็นของคณะอนุกรรมการวิชาการ รายสาขา คณะที่ 999/2 ได้พิจารณาข้อคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องกับมาตรฐานดังกล่าว

ซึ่งมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแบตเตอรี่สำรองสำหรับการใช้งานแบบพกพา มอก.2879-25xx ครอบคลุมผลิตภัณฑ์พาวเวอร์แบงค์ที่ได้รับความนิยมและนำมาใช้งานกับอุปกรณ์อิกเล็กทรอนิกส์อื่นๆ หากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันความเสียหายอันจะเกิดแก่อุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศ

ส่วนตัวมองว่า การออกกฎหมายบังคับให้กับ Power Bank ไม่ว่าใครต่างก็ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งตัวผู้ขายที่ได้รองรับมาตรฐานของสินค้าตัวเอง และผู้บริโภคเองได้รับความไว้วางใจจากสินค้าที่ซื้อมา. แบตสำรองมีขายเกลื่อนไปทั่วในตลาดบ้านเรา ซ้ำยังมีปริมาณการจ่ายไฟที่แตกต่างกัน ถ้าความจุของแบตสำรองมีขนาด 30,000 มิลลิแอมป์ ก็คงใช้งานได้นานหน่อย แต่ถ้าแบตสำรองมีความจุ 5,000 มิลลิแอมป์ การใช้งานก็จะเหลือน้อยลง ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถึงอย่างนั้น Powerbank ที่คุณมีอยู่ตรงตามคุณสมบัติที่ดีที่ควรจะมีหรือไม่คงไม่ดีเท่าไหร่นัก ถ้า Powerbank ให้คุณโยนหินถามทางไปเอง ต้องคอยคาดเดาว่า Powerbank มีความจุเหลืออยู่เท่าไหร่ ที่จะพอใช้ไปจนถึงตอนเย็นหรือไม่ ลองหยิบ Powerbank ของคุณขึ้นมาเช็คดูว่ามีเสียบกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้งานแล้ว มีไฟแจ้งเตือนปริมาณแบตที่เหลืออยู่จำนวนเท่าไหร่ เพราะถ้าไม่มีคุณก็คงต้องเปลี่ยนใหม่แน่นอน คงไม่มีใครอยากถือแบตสำรองเปล่าๆ ออกจากบ้านแน่นอน Powerbank ที่ดี นอกจากจะบอกพลังงานที่เหลืออยู่ให้คุณรู้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งก็คือ ควรตัดไฟไปในตัวเมื่อแบตมือถือกลับมาเต็ม 100% เหมือนเดิม นอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตสำรองให้คงทนแล้ว ยังช่วยถนอมความจุที่มีอยู่อีกด้วย หากต้องหยิบมาใช้อีกครั้งหนึ่งแล้วความจุเหลืออยู่แค่ครึ่งขีด วิ่งหาปลั๊กไฟน่าจะสบายใจกว่าแบตสำรองไฟไหม้ แบตสำรองระเบิด คุณคงจะได้เห็นได้ยินข่าวเหล่านี้อยู่เป็นประจำ มักเกิดขึ้นกับ พาวเวอร์แบงค์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่มีระบบป้องกันไฟลัดวงจรอีกด้วย ถ้าการใช้แบตมือถือในบ้าน เรียกได้ว่าน่ากลัวแล้ว แบตสำรองระเบิดก็น่ากลัวไม่ต่างกัน ทางที่ที่ดีควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนซื้อแบตเตอรี่สำรองทุกยี่ห้อ ควรระบุความสามารถในการจ่ายไฟที่แตกต่างกันด้วย เพราะแบตสำรองบางรุ่นอาจจ่ายไฟได้สูงถึง 2.1 A ซึ่งความสามารถในการจ่ายไฟปริมาณเท่านี้เหมาะสำหรับไอแพด หรือโทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบัน หากนำไปชาร์จกับมือถือรุ่นเก่าๆ ที่ต้องการกำลังการชาร์จไฟในปริมาณที่น้อยลง ผลที่ตามมาก็คือ แบตสำรองอาจจะระเบิด ไฟไหม้ ช็อต หรือไฟฟ้าลัดวงจรได้สินค้าหลายประเภทมักจะระบุระยะเวลาประกันที่ชัดเจน ยิ่งเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ด้วยล่ะก็ยิ่งต้องมี คุณควรสังเกตให้ดีก่อนซื้อว่าแบตสำรองมีระยะเวลาประกันที่ระยบุเอาไว้ไหม เพราะถ้าเสียหายขึ้นมาก็ไม่สามารถเรียกร้องกับใครได้ หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือถ้ายังอยู่ในระยะเวลาก็สามารถเปลี่ยนหรือคืนได้ ถ้าเกิดปัญหาขึ้นคงจะทำให้คนที่ใช้งานแบตสำรองบ่อย ๆ อุ่นใจขึ้นบ้าง เพราะล่าสุด มอก. เห็นชอบให้ปรับปรุงขอบข่ายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแบตเตอรี่สำรองไฟฟ้า สำหรับการใช้งานกพกพา ซึ่งคุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย มาตรฐานเลขที่ มอก.2879-25xx หรือมาตรฐาน Powerbank ตามความเห็นของคณะอนุกรรมการวิชาการ รายสาขา คณะที่ 999/2 ได้พิจารณาข้อคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องกับมาตรฐานดังกล่าวซึ่งมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแบตเตอรี่สำรองสำหรับการใช้งานแบบพกพา มอก.2879-25xx ครอบคลุมผลิตภัณฑ์พาวเวอร์แบงค์ที่ได้รับความนิยมและนำมาใช้งานกับอุปกรณ์อิกเล็กทรอนิกส์อื่นๆ หากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันความเสียหายอันจะเกิดแก่อุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศส่วนตัวมองว่า การออกกฎหมายบังคับให้กับ Power Bank ไม่ว่าใครต่างก็ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งตัวผู้ขายที่ได้รองรับมาตรฐานของสินค้าตัวเอง และผู้บริโภคเองได้รับความไว้วางใจจากสินค้าที่ซื้อมา.

Power bank ที่วางขายในปัจจุบันนั้นมีหลายแบบ หลายยี่ห้อมาก การสุ่มสี่สุ่มห้าเลือกซื้อไปใช้โดยดูแค่ว่าราคาถูกคงไม่ดีนัก เพราะนอกจากมีสิทธิที่จะโดนหลอกแล้วยังเสี่ยงกับอันตรายอีกด้วย ดังนั้นก่อนเลือกซื้อต้องดูอะไรบ้าง มาดูกัน 1. ความจุของแบตสำรอง : ควรเลือกความจุที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะความจุของแบตสำรองนั้นมีตั้งแต่ 2,000 mAh ไปจนถึง 30,000 mAh แต่ใช่ว่า “ยิ่งความจุเยอะยิ่งดี เพราะความจุที่มากก็ย่อมตามมาด้วย “น้ำหนัก” และราคา ซึ่งมากไปมันก็เกินความจำเป็น 2. อัตราการรับ และจ่ายไฟ : Power bank ที่ใช้งานกับสมาร์ทโฟนควรมีไฟออกอยู่ประมาณ DC 5V – 1A ก็พอครับ แต่หากใช้งานกับแท็บเล็ตด้วย ควรอยู่ที่ประมาณ DC 5V – 2.1A เพราะหากน้อยเกินไปจะใช้เวลาชาร์จที่นาน 3. เซลล์แบตเตอรี่ : เซลล์แบตเตอรี่นั้นมีทั้ง Lithium-ion และ Lithium polymer ซึ่งถ้าเป็น Power bank ที่มีความจุเท่ากันนั้น แบตเตอรี่แบบ Li-Po จะได้ความจุสุทธิที่ใช้งานจริงได้มากกว่า Li-ion เนื่องจากมีโวลต์ที่สูงกว่า แต่ก็ไม่มากกว่ากันเท่าไร นอกจาก 3 ข้อที่แนะนำแล้ว ก็ควรเลือกใช้ยี่ห้อที่เชื่อถือได้ ดูรีวิวจากผู้ใช้จริง หรือเลือกที่มีมาตรฐาน มอก. ก็จะดีกว่า เพื่อการใช้งานอย่างปลอดภัย และคุ้มค่า

อุปกรณ์ power bank โดยทั่วไปแล้วความจุที่เราชาร์จได้จริงๆ จะไม่ค่อยได้เต็มตามสเปคที่ระบุมา โดยส่วนใหญ่จะใช้ได้ประมาณ 70% ของความจุที่ระบุ แล้วแต่ละยี่ห้อนั้น แม้ว่าจะมีความจุที่เท่ากันแต่ก็จะมีจำนวนรอบชาร์จที่ต่างกัน แล้วก็ขึ้นอยู่กับรุ่นมือถือด้วย เพราะขนาดแบตเตอรี่ของแต่ละรุ่นก็ไม่เท่ากัน

วิธีการคำนวณว่าชาร์จได้กี่รอบนั้น ให้เอาขนาดแบตเตอรี่ของมือถือที่เราใช้ ไปหารความจุที่ใช้ได้จริง ก็จะได้เป็นจำนวนรอบชาร์จ เช่น - ถ้าเราใช้ชาร์จ iPhone 7 ซึ่งมีแบตเตอรี่ 1,960 mAh เมื่อนำความจุที่ใช้ได้จริงมาหารกับขนาดแบตเตอรี่ ดังนั้น 14000 / 1960 จะได้ 7.1

ถ้าดูสเปคของ Power Bank ตามกล่อง จะมีการบอกค่า Input (อัตราการรับไฟเข้า) และ Output (อัตราการจ่ายไฟออก) ไว้ ซึ่งจะมีผลกับเวลาที่ใช้ในการชาร์จ เพราะถ้าแบตสำรองนั้นยิ่งจ่ายไฟได้น้อยก็จะทำให้ยิ่งใช้เวลาชาร์จนานขึ้น และบางครั้งอาจส่งผลต่อการทำงาน และอายุของแบตเตอรี่โทรศัพท์เราอีกด้วย โดยทั่วไปแล้ว อัตราการรับ-จ่ายไฟ ที่ระบุหลังกล่องมักจะเป็น DC 5V – 2.1A , DC 5V – 1A ซึ่งการจะเลือกใช้นั้น เราต้องดูว่าเราใช้ชาร์จอุปกรณ์ประเภทไหน รับไฟฟ้าได้มากเท่าไร เพราะหากโทรศัพท์ของเรารับไฟฟ้าได้ทีละน้อยๆ แต่ Power bank ปล่อยไฟออกมามาก ก็จะทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์มีโอกาสเสื่อมได้ แต่ถ้าเลือกรุ่นที่ปริมาณการจ่ายไฟน้อยเกินไป ก็จะทำให้ไฟไม่พอ อาจต้องใช้เวลาชาร์จนานเกินกว่า 10 ชั่วโมงเลยก็ได้ ดังนั้น Power bank ที่ใช้งานกับสมาร์ทโฟนควรจ่ายไฟอยู่ที่ประมาณ DC 5V – 1A ก็พอครับ แต่หากใช้งานกับแท็บเล็ตด้วย ควรอยู่ที่ประมาณ DC 5V – 2.1A

สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนท์หลายๆ รุ่นในตอนนี้มีการพัฒนาใช้เทคโนโลยี QI เพื่อให้เราสามารถชาร์จแบบไร้สายได้สะดวกสบายกว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าอุปกรณ์พาวเวอร์แบงค์เองก็มีหลายๆ แบรนด์ที่พัฒนามาเพื่อตอบโจทย์การชาร์จแบบไร้สายด้วย อุปกรณ์ Power bank ที่เป็น Wireless Charger แบบเต็มรูปแบบนั้น จะลดความยุ่งยากในการพกสายชาร์จ เพราะเราสามารถวางมือถือของเราไปบน Power bank Wireless Charger ก็สามารถชาร์จได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียบสาย พาวเวอร์แบงค์ดีๆ บางรุ่น สามารถรองรับการชาร์จ 3 เครื่องพร้อมกันเลยก็ยังได้ แต่ว่ามือถือของเราต้องมีระบบ QI ที่รองรับการชาร์จไร้สายได้ด้วย สำหรับใครที่หาซื้อ Power bank แบบ Wireless Charger อยู่นั้น ปัจจุบันมีขายอยู่ไม่มากนัก ยี่ห้อที่คนนิยมซื้อกันก็ได้แก่ ROMOSS, Hoco, AWEI เป็นต้น ซึ่งเวลาซื้อนั้นควรตรวจเช็คก่อนซื้อว่าเป็นของแท้หรือไม่ มีการรับประกันหรือไม่ และถ้าให้ดีควรเลือกรุ่นที่จ่ายไฟ DC 5.0V-2.1A ขึ้นไป และอาจเลือกรุ่นที่รองรับ Fast Charge หรือ Quick Charge ด้วยจะคุ้มค่ากว่า

บทสรุป Power Bank กับการใช้งานในยุคที่มือถือต้องติดตัวตลอดเวลา ในหนึ่งวันเราใช้เวลากับการเล่นโทรศัพท์ไปค่อนข้างมาก เนื่องจากโทรศัพท์ในสมัยนี้สามารถทำงานได้มากกว่า การรับเข้าและโทรออก จึงไม่แปลกที่คนจะให้เวลากับการใช้มือถือเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัญหาหนึ่งของผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนคือ เมื่อใช้ไปสักพักหรือใช้งานหนัก ไม่ว่าจะรับ-ส่ง อีเมล ส่งข้อความ อ่านข่าว ส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็ว เมื่อมีเหตุจำเป็นต้องใช้งานโทรศัพท์มือถือก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้ จึงทำให้มีการผลิตแบตเตอรี่สำรองขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ การนำ Power bank มาใช้งานนั้นถือเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้มือถืออย่างยิ่ง เมื่อแบตเตอรี่กำลังจะหมดก็สามารถจะชาร์จได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลหาที่เสียบปลั๊ก สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกโดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกล สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้โดยไม่ต้องรอคิว ชาร์จได้ขณะที่นั่งอยู่บนรถโดยสารหรือไม่ต้องกังวลกับปลั๊กเสียบเมื่ออยู่ต่างประเทศถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมา อีกสิ่งหนึ่ง ในปัจจุบันมีการผลิตแบตเตอรี่สำรองและวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก มีทั้งแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพและด้อยคุณภาพ โดยผู้บริโภคไม่สามารถรู้ได้เลย เนื่องจากการออกแบบที่คล้าย ๆ กันทำให้แยกแยะได้ลำบาก ส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อจากรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น ทำให้บางครั้งการนำแบตเตอรี่สำรองไปใช้กับมือถือราคาแพงอาจเกิดปัญหาได้ เช่น เลือกแบบที่มีขนาดความจุสูงแต่ราคาถูกเกินความเป็นจริง โดยก่อนเลือกซื้อควรชั่งใจไว้ก่อนเพราะบางครั้งที่ราคาถูก เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตนำแบตเตอรี่ประเภท refurbishมาใช้ในการผลิตเพื่อลดต้นทุน แต่เมื่อนำมาใช้จริงอาจจะมีผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าในโทรศัพท์ได้ หรือกรณีที่ซื้อมาใช้งานโดยไม่ได้ศึกษารายละเอียดของตัวแบตเตอรี่ เช่น Powerbank ที่ซื้อมาสามารถตัดกระแสไฟฟ้าได้หรือไม่หากไม่สามารถตัดได้อาจส่งผลให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือทำให้มีกระแสไฟเกินขนาดได้ มีการป้องกันอุณหภูมิสูงเกินไปขณะที่ชาร์จหรือไม่เพื่อป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม สิ่งเหล่านี้ผู้ซื้อควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนการตัดสินใจ ก่อนตันสินใจซื้อ Powerbank สิ่งที่ผู้ซื้อควรตรวจสอบคือ ราคาและปริมาณความจุของแบตเตอรี่สำรองนั้นสอดคล้องกันหรือไม่ เช่น ความจุ 1000 mAh ในราคา 200-400 บาท ให้มองว่าอาจจะเป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ได้คุณภาพก็ได้ ต่อมาดูเรื่องการรับรองมาตรฐานสินค้า โดยส่วนใหญ่สินค้าที่ผ่านการับรองจะมีเครื่องหมายติดอยู่ข้างกล่อง รวมสายชาร์จที่เหมาะสมกับโทรศัพท์ เนื่องจากบางคนต้องการความรวดเร็วในการชาร์จ จึงเลือกหัวชาร์จที่ใหญ่กว่าของเดิมเมื่อชาร์จไปสักพักแบตเตอรี่จะเต็มเร็ว แต่จะมีผลในระยะยาวคือหากชาร์จบ่อย ๆ แบตเตอรี่อาจจะเสื่อมและพังเร็วได้เช่นกันดังนั้นก่อนซื้อควรศึกษารายละเอียดตรงนี้เสียหน่อยเพื่ออายุการใช้งานของมือถือที่นานขึ้น

คำค้นหายอดนิยมในหมวดหมู่นี้: เคสโทรศัพท์, สายชาร์จ, สายชาร์จ Samsung, สายชาร์จไอโฟน

Comments

Post Comments