Kouziro FT103 แท็บเล็ตหน้าจอยักษ์!!

Kouziro FT103 แท็บเล็ตหน้าจอยักษ์!!

Infinix เปิดตัวเทคโนโลยีสุดล้ำ Thunder Charge 180W ครั้งแรก! บนสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ พร้อมให้คุณรู้จักแล้ววันนี้ ::

ปัจจุบันวงการสมาร์ตโฟนมีการแข่งขันสูง กลุ่มผู้ใช้งานเริ่มให้ความสนใจคุณสมบัติและฟังก์ชั่นต่างๆ ของสมาร์ตโฟนเพิ่มขึ้น เพื่อเลือกสมาร์ตโฟนที่ดีและตอบโจทย์กับความต้องการมากที่สุด ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติที่เป็นตัวแปรสำคัญคือเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง ที่ช่วยลดเวลาในการชาร์จให้สั้นลงและรวดเร็วขึ้น และล่าสุด Infinix กำลังจะเตรียมเปิดตัวเทคโนโลยี Thunder Charge 180W ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง

Infinix แบรนด์ระดับโลกที่ได้รับความนิยมและกำลังเติบโตในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ล่าสุดเปิดตัวเทคโนโลยีสุดยอดความเร็ว Thunder Charge 180W บนสมาร์ตโฟนเรือธงที่กำลังเตรียมจะเปิดตัว โดยจะมีการประกาศในช่วงครึ่งหลังของปี กับเทคโนโลยีใหม่สุดล้ำที่ให้ผู้ใช้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 4500mAh ได้ถึง 50% ในเวลาเพียง 4 นาที ซึ่งผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์การชาร์จอุปกรณ์อัจฉริยะขั้นสูงที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น

แมนเฟรด ฮง ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์อาวุโสของ Infinix กล่าวว่า “หลังจากการเปิดตัว Concept Phone ของ Infinix 160W ในปีที่แล้ว จนต่อยอดมาถึง Infinix 180W Thunder Charge เป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมที่นำเสนอเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว เพื่อยกระดับการใช้งานที่เหนือกว่าให้กับผู้บริโภคทุกคน โดย Infinix ตั้งเป้าที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และพัฒนานวัตกรรมของเทคโนโลยีนี้ เพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์ของการเชื่อมต่อชีวิตดิจิทัลเป็นครั้งแรก”

สำหรับเทคโนโลยีซูเปอร์ชาร์จเพิ่งเข้ามาสู่โลกของผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนเมื่อไม่นานมานี้ เพราะเดิมทีเทคโนโลยีนี้ยังไม่แพร่หลายเหมือนในปัจจุบัน แต่ด้วยวิธีการผลิตที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จึงทำให้เทคโนโลยีนี้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอุปกรณ์ระดับกลาง

สมาร์ตโฟนทั่วไปมีคุณสมบัติการชาร์จเร็วโดยใช้แบตเตอรี่ที่มีอัตราการเก็บและคายประจุได้ต่อเนื่องที่ 1C - 3C ในขณะที่ Thunder Charge 180W ใช้แบตเตอรี่ที่มีอัตรา 8C ซึ่งช่วยลดโอกาสที่แบตเตอรี่จะร้อนเกินไป โดย Infinix ร่วมมือกับผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของโลก เพื่อพัฒนาเซลล์แบตเตอรี่ 8C แบบใหม่ ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมแบบชาร์จไฟที่มีอัตราการชาร์จสูงสุดในอุตสาหกรรมขณะนี้ โดยคุณสมบัติของเซลล์ 8C มีความต้านทานภายในต่ำกว่าพวกเซลล์แบบโครงสร้างขั้วไฟฟ้าเดี่ยวทั่ว ๆ ไป เนื่องจาก เซลล์ 8C มีตัวเชื่อมแบบหลายขั้ว ซึ่งช่วยลดความต้านทานภายในได้มากกว่าถึง 50% และช่วยลดความร้อนให้น้อยลง นอกจากนี้ Thunder Charge 180W จะใช้แบตเตอรี่อัตรา 8C สองก้อน ทำให้กำลังการชาร์จของแบตเตอรี่แต่ละก้อนจะอยู่ที่ 90W ขณะกำลังชาร์จ จึงช่วยลดความร้อนและยืดอายุการใช้งานได้นานยิ่งขึ้น

ด้านความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด โดย Thunder Charge 180W มีซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่เป็นกลไกการป้องกันและรักษาความปลอดภัยถึง 111 รายการ เพื่อปกป้องสมาร์ตโฟน หัวชาร์จและสายชาร์จ พร้อมป้องกันความปลอดภัยของอุปกรณ์เมื่อเกิดการทำงานที่ผิดปกติ เช่น อุณหภูมิสูง แรงดันไฟฟ้าเพิ่มขึ้น การรบกวนของแม่เหล็กไฟฟ้าและอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยของระบบสมาร์ตโฟน นอกจากนี้ เทคโนโลยีการชาร์จ Thunder Charge 180W ยังได้รับการรับรองระบบการชาร์จเร็วจาก TÜV Rheinland Safe ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและอายุการใช้งานที่ยาวนานของอุปกรณ์เมื่อต้องชาร์จทุกวัน

นอกจากนี้ การชาร์จของ Thunder 180W จะมีเซ็นเซอร์อุณหภูมิ 20 ตัว ที่กระจายอยู่ในอินพุต USB ชิปชาร์จ แบตเตอรี่และตำแหน่งอื่นๆ ภายในอุปกรณ์ ซึ่งการชาร์จจะถูกตรวจสอบแบบเรียลไทม์ผ่านอัลกอริธึมควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะในขณะที่อุปกรณ์กำลังชาร์จ โดยอุณหภูมิของสมาร์ตโฟนจะเก็บไว้ต่ำกว่า 43 องศาเซลเซียส จึงสามารถรับประกันได้เลยว่าการชาร์จจะมีความปลอดภัยและรวดเร็ว โดยไม่ทำให้เกิดความร้อนมากเกินไปหรือทำให้แบตเตอรี่เสื่อมคุณภาพ

เทคโนโลยีการชาร์จ Thunder Charge 180W ของ Infinix เป็นหนึ่งในโซลูชันที่ล้ำหน้าที่สุดและแสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของสมาร์ตโฟนราคาระดับกลาง ตอบสนองด้วยมิติใหม่ของการชาร์จที่เร็วกว่า ด้วยอุณหภูมิที่ต่ำกว่าและตามมาตรฐานความปลอดภัย จึงให้สมาร์ตโฟนของ Infinix ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด

โดยสิ่งที่นำเสนอในเทคโนโลยีนี้คือ GaN วัสดุเซมิคอนดักเตอร์ใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ Thunder Charge 180W สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมหลากหลายที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 40°C นอกจากนี้ อะแดปเตอร์ที่ชาร์จยังเข้ากันได้กับมาตรฐานการชาร์จเร็วหลายแบบ และสามารถทำการชาร์จได้เร็วสูงสุด 100W กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ในตลาด รวมทั้ง โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และแล็ปท็อป เพื่อให้ผู้ใช้มีความยืดหยุ่นสูงสุด อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถใช้สายจากผู้ผลิตอื่นเพื่อชาร์จอุปกรณ์ Infinix สูงสุดถึง 100W

สำหรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว 180W ที่ Infinix สร้างสรรไว้บนสมาร์ตโฟนที่ผลิตออกมาเป็นจำนวนมากนั้น ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมของ Infinix ซึ่งการนำเสนอเทคโนโลยีนี้ต่อสาธารณชนในวงกว้างด้วยราคาที่คุ้มค่า ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของ Infinix ในการทำให้เทคโนโลยีระดับไฮเอนด์เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้มากที่สุด

Motorola ซุ่มพัฒนามือถือรุ่นใหม่ โค้ดเนม Frontier มากับกล้อง 200MP ชิป Snap 8 Gen1+ และชาร์จไว 125W

เพิ่งจะเปิดตัว Motorola Edge X30 สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 ไปได้ไม่ทันไร ล่าสุดตอนนี้มีข้อมูลชุดใหม่ของมือถือ Motorola หลุดออกมาอีกแล้ว โดยครั้งนี้จุดเด่นคือจะใช้เซ็นเซอร์กล้องความละเอียดสูง 200MP จาก Samsung และเหมือนเดิม สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจะเตรียมขึ้นแท่นเป็น World’s First หรือรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ตัวนั้น

TechnikNews แหล่งข่าวจากประเทศเยอรมัน รายงานว่า Motorola กำลังซุ่มพัฒนาสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นถัดไปของบริษัทฯ ในโค้ดเนม Frontier ซึ่งลือกันว่าจะเป็นรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์กล้อง ISOCELL HP1 ความละเอียดสูง 200MP จาก Samsung พ่วงด้วยกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP และกล้อง Telephoto จาก Sony ความละเอียด 12MP เรียกได้ว่าให้มาครบทุกระยะเลนส์เลยทีเดียว ส่วนกล้องหน้าจะใช้เป็นตัว 60MP เหมือนกับ Motorola Edge X30 มือถือสเปคไฮเอนด์ที่เปิดตัวไปเมื่อปีกลายที่ผ่านมา

นอกจากกล้อง 200MP แล้ว Motorola Frontier ยังจะมาพร้อมกับระบบชาร์จไว 125W และไร้สาย 50W ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1+ ที่ยังไม่เปิดตัวจาก Qualcomm พ่วงด้วย RAM 12GB และหน่วยความจำขนาด 256GB จอ OLED 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 144Hz เป็น Android 12 ตั้งแต่แกะกล่อง

Kouziro FT103 แท็บเล็ตหน้าจอยักษ์!!

Kouziro บริษัทผลิตคอมพิวเตอร์สัญชาติญี่ปุ่น ภายใต้ยี่ห้อ FRONTIER เปิดตัว "FT103" แท็บเล็ตแอนดรอยด์ ซึ่งมีหน้าแสดงผลขนาดใหญ่ (Full HD 1920 x 1080) ที่มีขนาดถึง 21.5 นิ้ว! ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ใหญ่ที่สุดที่ใช้ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 (Ice Cream Sanwich) ซึ่งหน้าจอไม่สามารถหมุนหน้าจอได้รองรับการใช้งานเฉพาะในรูปแบบแนวนอนเท่านั้น

สเปกโดยทั่วไปไม่ได้มีความพิเศษมากนัก ทำงานด้วยหน่วยประมวลผล dual core 1GHz (TI OMAP 4428) หน่วยความจำ RAM 1GB และ flash storage 8GB รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และบลูทูธ กล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออื่นๆ ขนาดตัวเครื่อง 512.8×24.8×353 มิลลิเมตร น้ำหนัก 5 กิโลกรัม แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดและน้ำหนัก เพราะ FT103 มาพร้อมขาตั้งที่ปรับระดับได้ 3 ระดับในตั

Comments

Post Comments