รีวิว 13 อันดับ โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี ปี 2022

รีวิว 13 อันดับ โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี ปี 2022

HUAWEI เปิดตัว 7 ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในไทย นำทัพด้วย HUAWEI Mate Xs 2 ยอดมือถือจอพับนวัตกรรมจัดเต็ม, HUAWEI P50 มือถือเรือธงกล้องเด่น และ HUAWEI WATCH GT 3 Pro สมาร์ทวอทช์ดีไซน์พรีเมียม ! ::

HUAWEI เปิดตัว 7 ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในไทย นำทัพด้วย HUAWEI Mate Xs 2 ยอดมือถือจอพับนวัตกรรมจัดเต็ม, HUAWEI P50 มือถือเรือธงกล้องเด่น และ HUAWEI WATCH GT 3 Pro สมาร์ทวอทช์ดีไซน์พรีเมียม !

HUAWEI Mate Xs 2 เป็นสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นล่าสุดจาก Huawei ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ใหม่หมดจด โดยมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล True-Chroma Display เมื่อกางออกขนาดใหญ่ 7.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2480x2200 พิกเซล ที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz โดยเมื่อพับหน้าจอเข้าหากัน จะมีขนาดอยู่ที่ 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2480x1176 พิกเซล นอกจากนี้ ตัวหน้าจอยังเคลือบด้วยพอลิเมอร์ พร้อมโครงหน้าจอ 4 ชั้นเพื่อช่วยเพิ่มความทนทานให้กับหน้าจอ รวมถึงบอดี้ที่มีผิวสัมผัสแบบ 3D Fiberglass ช่วยลดรอยนิ้วมือจากการใช้งาน

ด้านประสิทธิภาพการทำงานถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว โดยมาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 4G และแบตเตอรี่ขนาด 4880mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็วระดับ 66W ส่วนด้านการถ่ายภาพจัดเต็มมากับกล้องหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และกล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่รองรับระบบการซูมภาพแบบ Optical Zoom 3x และสามารถซูมภาพแบบ Digital Zoom ได้ไกลสูงสุด 30x พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS

HUAWEI Mate Xs 2 เปิดราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 61,990 บาท สามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2565 ถึง 7 กรกฎาคม 2565 พร้อมโปรโมชันสุดคุ้ม รับฟรีสมาร์ทวอทช์ HUAWEI WATCH GT 2 Pro มูลค่า 8,990 บาท และเคสใสสำหรับ HUAWEI Mate Xs 2 มูลค่า 1,599 บาท รวมมูลค่า 10,589 บาท โดยผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองได้ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store, ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada รวมถึงแอปพลิเคชัน My HUAWEI

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง Huawei ได้นำสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่จากตระกูล P Series อย่าง HUAWEI P50 Pro และ HUAWEI P50 Pocket Edition ล่าสุดนี้ก็ได้มีการนำอีกหนึ่งรุ่นจากตระกูล P Series อย่าง HUAWEI P50 เข้ามาวางขายในประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกัน

สำหรับ HUAWEI P50 มาพร้อมกับจุดเด่นด้านกล้องถ่ายภาพที่พัฒนาร่วมกับแบรนด์ Leica แบบ Dual-Matrix Camera Design ที่มีกล้องหลังจำนวน 3 ตัว ความละเอียด 50+13+13 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ครบเครื่องด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ True-Chroma Display ขนาด 6.5 นิ้ว ที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ไปจนถึงชิปเซ็ตประมวลผลตัวท็อป Qualcomm Snapdragon 888 4G และแบตเตอรี่ขนาด 4100mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็ว 66 W HUAWEI SuperCharge

HUAWEI P50 เปิดตัวออกมาทั้งหมด 2 เฉดสี ได้แก่ Golden Black และ Cocao Gold วางจำหน่ายในราคา 26,990 บาท พร้อมโปรโมชันพิเศษเมื่อสั่งซื้อระหว่างวันที่ 3 มิถุนายน 2565 ถึง 30 มิถุนายน 2565 ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store, ร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน My HUAWEI รับฟรีทันที HUAWEI Band 6 มูลค่า 1,899 บาท พร้อมฟรีรับประกันสินค้า 1 ปี มูลค่า 1,799 บาท

นอกเหนือจาก HUAWEI P50 แล้ว ภายในงานยังมีเซอร์ไพร์สด้วยการเปิดตัว HUAWEI P50 Pro สีใหม่ล่าสุดอย่าง สีฟ้า Silver Blue โดยเปิดราคาวางจำหน่ายที่ 33,990 บาท พร้อมโปรโมชันพิเศษรับฟรี HUAWEI WATCH GT 2 Pro มูลค่า 8,990 บาท สำหรับผู้ที่สั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2565 ถึง 30 มิถุนายน 2565 ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน My HUAWEI (อ่านรีวิว HUAWEI P50 Pro ได้ที่นี่)

อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในประเทศไทยสด ๆ ร้อน ๆ กับรุ่น HUAWEI nova Y70 ที่มาพร้อมกับจุดเด่นด้านแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจถึง 6000mAh เพื่อรองรับการใช้งานที่ยาวนานตลอดวัน รวมถึงหน้าจอแสดงผลแบบ HUAWEI FullView Display ขนาดใหญ่เต็มตาถึง 6.75 นิ้ว นอกจากนี้ยังพกพาจุดเด่นด้านการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล ที่ครอบคลุมการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์

HUAWEI nova Y70 เปิดราคาวางจำหน่ายที่ 5,999 บาท มีมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีฟ้า และสีดำ สามารถสั่งซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2565 ถึง 30 มิถุนายน 2565 ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store, ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada รวมถึงแอปพลิเคชัน My HUAWEI

นอกจากมือถือแล้ว ภายในงานยังได้มีการเปิดตัวอุปกรณ์ประเภท Wearable ด้วย เริ่มด้วยรุ่น HUAWEI WATCH GT 3 Pro ที่มาพร้อมกับหน้าปัดทรงงกลมแบบ AMOLED สุดคลาสสิก มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 46 มิลลิเมตร และ 43 มิลลิเมตร

ในส่วนของฟีเจอร์การใช้งาน HUAWEI WATCH GT 3 Pro มาพร้อมกับคุณสมบัติแบบจัดเต็มตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบด้านการออกกำลังกาย เริ่มตั้งแต่ ECG sensor ที่สามารถบอกค่าต่าง ๆ เกี่ยวกับสุขภาพได้อย่างละเอียดกว่าเมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ใช้กันอยู่ทั่วไป นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติป้องกันน้ำ ซึ่งทาง Huawei ระบุว่าสามารถใช้ดำน้ำแบบ Free Diving ได้ลึกสูงสุด 30 เมตร พร้อมโหมดการออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด

HUAWEI WATCH GT 3 Pro ขนาด 46 มิลลิเมตร จะมาในรุ่น Titanium Edition ที่มาพร้อมกับดีไซน์เข้มสุดแกร่งด้วยกรอบไทเทเนียมผสานกับสายหนัง วางจำหน่ายในราคา 11,990 บาท ส่วน​ HUAWEI WATCH GT 3 Pro ขนาด 43 มิลลิเมตร มาในรุ่น Ceramic Edition กับความหรูหราด้วยกรอบเซรามิกขาวตัดด้วยสีทอง วางขายในราคา 19,990 บาท โดยผู้ที่สั่งซื้อ HUAWEI WATCH GT 3 Pro ทั้ง 2 รุ่น จะได้รับฟรีหูฟังไร้สาย HUAWEI FreeBuds 4i มูลค่า 2,799 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้าระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน 2565 ถึง 30 มิถุนายน 2565 ผ่านหน้าร้าน HUAWEI Experience Store, ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada, JD Central และ Thisshop รวมถึงแอปพลิเคชัน My HUAWEI

HUAWEI WATCH D เป้นสมาร์ทวอทช์อัจฉริยะที่มาพร้อมกับดีไซน์หน้าปัด AMOLED แบบสี่เหลี่ยม ขนาด 1.64 นิ้ว ความละเอียดระดับ 456x280 พิกเซล รองรับโหมดออกกำลังกายมากกว่า 70 ชนิด พร้อมเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึงฟีเจอร์วัดความดันโลหิตที่สามารถวัดความดันได้ 40mmHg - 230 mmHg ได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งยังมาพร้อมกับฟีเจอร์การวัดคลื่นหัวใจไฟฟ้า ECG และคุณสมบัติทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP68 พร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 7 วัน

HUAWEI WATCH D มีให้เลือกเพียงสีเดียวคือ สีดำ โดยเปิดราคาวางจำหน่ายที่ 14,990 บาท พร้อมรับฟรี HUAWEI Scale 3 มูลค่า 799 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้าในช่วงวันที่ 24 มิถุนายน 2565 - 7 กรกฎาคม 2565 ผ่านหน้าร้าน HUAWEI Experience Store, ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada รวมถึงแอปพลิเคชัน My HUAWEI

สมาร์ทวอทช์รุ่นสานต่อที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมที่ 1.74 นิ้ว ความคมชัดละดับ 480x336 พิกเซล พร้อมรองรับโหมด Always On Display สำหรับแสดงผลตลอดวัน รวมทั้งยังมาพร้อมกัยแอปพลิเคชันต่าง ๆ ภายในตัวมากกว่า 30 แอปฯ ไม่ว่าจะเป็น แอปฯ สุขภาพ ไปจนถึงแอปฯ ออกกำลังกาย นอกจากนี้ ยังมีมาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM และมีระบบ GPS ในตัวเพื่อติดตามการออกกำลังกาย

HUAWEI WATCH FIT 2 มีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสี ได้แก่ Midnight Black, Isle Blue และ Sakura Pink โดยเปิดราคาวางจำหน่ายที่ 4,990 บาท พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับฟรี HUAWEI Scale 3 มูลค่า 799 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้าระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ถึง 30 มิถุนายน 2565 ผ่านหน้าร้าน HUAWEI Experience Store, ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada รวมถึงแอปพลิเคชัน My HUAWEI

ปิดท้ายด้วยหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับจุดเด่นด้านการเล่นเสียงได้ยาวนานสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง พร้อมดีไซน์แบบ Semi in-ear ที่ช่วยให้สวมใส่ได้อย่างสบาย พร้อมคุณภาพเสียงระดับ Crystal Clear Sound ด้วยไดรเวอร์เสียงขนาด 10 มิลลิเมตร ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการรับฟังเพลงทุกประเภท

HUAWEI FreeBuds SE มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า และสีขาว เปิดราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 1,899 บาท วางจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่นบน Shopee, Lazada และ ThisShop เท่านั้น สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ถึง 27 พฤษภาคม 2565 พร้อมโปรโมชันพิเศษตามแต่ละช่องทางที่วางจำหน่าย ดังนี้

• HUAWEI Store - ราคาพิเศษ 1,099 บาท จากราคาปกติ 1,899 บาท พร้อมเงื่อนไขการชำระค่ามัดจำเพียง 100 บาท รับส่วนลดมูลค่า 800 บาท (สามารถใช้ส่วนลดได้ระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ถึง 27 พฤษภาคม 2565)

• Lazada และ Shopee - ราคาพิเศษ 1,099 บาท จากราคาปกติ 1,899 บาท เมื่อสั่งซื้อระหว่างวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ถึง 27 พฤษภาคม 2556

แนะนำโทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นใหม่ล่าสุดที่วางขาย และมาใหม่ในปีนี้

แนะนำโทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นใหม่ล่าสุดที่วางขายในปีนี้ รุ่นที่มาใหม่มีรุ่นไหนบ้างในตอนนี้?

หลังจากที่เราได้แนะนำมือถือของ Samsung และ realme กันไปแล้ว (ดูมือถือใหม่ Samsung และ realme ในปี 2022) คราวนี้ก็มาถึงทางฝั่งของ HUAWEI กันบ้าง ที่ยังคงมี Smartphone รุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แถมยังมีการสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาแข่งขันกับแบรนด์อื่นๆ อยู่เสมอ ทั้งตัวหน้าจอพับได้ หรือว่ารุ่นที่กล้องเทพกว่าใครๆ ถึงแม้ว่าจะถูกจำกัดบางอย่างจากสหรัฐฯ ก็ตาม แต่ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องการใช้งานเหล่านั้นมาก บนระบบของ HUAWEI เองนั้นก็ทำออกมาให้เราได้ใช้งานกันได้อย่างปกติ แทบจะไม่ต่างจากแบรนด์อื่นๆ เลยเหมือนกัน อีกทั้งยังมีสเปคตัวเครื่องและความเร็วแรงอยู่เหมือนเดิม โดยเฉพาะในปี 2022 ปีใหม่นี้ ก็ได้มีข่าวคราวของบางรุ่นที่น่าสนใจหลุดออกมาพอสมควรเลย รวมไปถึงรุ่นที่ได้เปิดตัวกันช่วงปลายปีที่แล้ว กับรุ่นจอพับได้ที่เอามาลงแข่งในตลาดเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ก็เป็นรุ่นที่น่าสนใจมากไม่แพ้กัน และยังมีรุ่นใหม่ที่จะตามกันออกมาอีกด้วย วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำโทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวออกมาวางขายกันแล้วในปีนี้ และคาดว่าจะมาใหม่มีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง

แนะนำโทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นใหม่ล่าสุดที่วางขายในปีนี้ รุ่นที่มาใหม่มีรุ่นไหนบ้างในตอนนี้?

โทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นใหม่ที่จะนำมาวางขายในปีนี้ หรือว่าที่คาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้ รุ่นหลักๆ ที่พอจะมีข่าวคราวออกมาให้ได้รู้กันจะมีอยู่ทั้งหมดหลายรุ่นเลยทีเดียว เนื่องจากมีรุ่นที่เปิดตัวตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปีนี้ก็หลายรุ่น ซึ่งในช่วงปลายปีนี้เองก็มีบางรุ่นที่พร้อมวางขายแล้ว แต่สำหรับรุ่นที่เราจะนำมาบอกกันในวันนี้ จะมีทั้งรุ่นที่เปิดตัวกันออกมาแล้ว และพร้อมจะวางขายในปีนี้ กับรุ่นที่เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแต่ยังไม่ได้นำมาวางขาย จะมีเพียงข้อมูลบางส่วนที่เป็นสเปคของรุ่นนั้นเท่านั้น ดังนั้นรุ่นที่เปิดตัวแต่ยังไม่ได้มาขายในไทยก็ต้องรอข้อมูลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง จะมีโทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นไหนบ้างไปดูกันเลย

เริ่มต้นกันที่โทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นแรกๆ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ต้นปี และก็ได้สร้างความฮือฮาในเรื่องของกล้องเทพๆ อีกเช่นกัน ด้วยการดีไซน์กล้องหลังแบบ Dual-Matrix Camera เป็นกล้องคู่เรียงลงมา ให้อารมณ์เหมือนกับเป็นกล้องฟิล์มสมัยก่อนอะไรประมาณนั้นเลย แถมยังมีน้ำหนักที่เบากระชับมืออีกด้วย โดยหน้าจอแสดงผลของตัวนี้จะเป็น OLED กว้าง 6.6 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 120Hz และมีอัตราตอบสนองการสัมผัสถึง 300Hz ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และยังปลอดภัยต่อสายต่อด้วย 1440Hz PMW Dimming Control ลดอาการเหนื่อยล้าของสายตาได้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในที่แสงน้อยมากก็ตาม เสริมกำลังความเร็วแรงด้วย Snapdragon 888 กับความจำ RAM 8GB/ ROM 256GB พร้อม 3D Graphene Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนขณะใช้งานหรือเล่นเกมได้เป็นอย่างดี

จุดที่น่าสนใจก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของกล้องหลังที่เป็นกล้อง 4 ตัวที่ความละเอียด 50MP แบบ True Colour และ True-Chroma Image Engine ที่ช่วยให้แสงกับสีสันภาพในภาพออกมาสดใสสมจริงกว่าที่เคย เลนส์ที่สองจะเป็น Periscope Telephoto ความละเอียด 64MP ที่สามารถซูมได้สูงสุด 100 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีอัลต้าไวด์ 13MP และเลนส์โมโน 40MP พร้อมกับเทคโนโลยี XD Optics และ HUAWEI XD Fusion Pro Image Engine ที่ช่วยให้การถ่ายภาพนั้นมีความละเอียดมากยิ่งขึ้น จะถ่ายมุมใกล้มุมไกล หรือจะถ่ายภาพบุคคลก็สามารถถ่ายออกมาได้อย่างโปร ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 13MP ถ่ายเซลฟี่ได้ปกติ รุ่นนี้จะมีความจุแบตอยู่ 4,360 mAh รองรับ Fast Charging 66W ใช้งานได้เต็มวันแน่นอน ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ และดูรีวิวเต็มได้ที่นี่ เปิดตัวมาที่ราคา 33,990 บาท

โทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นล่าสุดรุ่นต่อมานี้ก็ได้ปล่อยออกมาพร้อมๆ กับตัวด้านบนเลย และยังเป็นรุ่นที่ทำออกมาแข่งขันกันในตลาดหน้าจอพับได้ ถือว่าเป็นรุ่นแรกของ HUAWEI อีกด้วยที่ทำแบบพับเก็บเป็น Pocket ซึ่งการดีไซน์ของรุ่นนี้ถ้ากางออกมาก็คือจะเป็นแบบคล้ายกับ P50 Pro เลย ทั้งรูปแบบของกล้องและขนาด แต่ฝาหลังของตัวนี้จะมีลวดลายที่ต่างกันตามแต่ละสีคือ สีขาวเป็นลายเหมือนเพชร และสีทองเป็นลายพลิ้วไหว เมื่อพับลงมาแล้วจะเหมือนตลับแป้ง สามารถดูจอเล็กๆ ตรงด้านนอกได้ด้วย โดยจอแสดงผลจะเป็น OLED เหมือนกัน เมื่อกางออกมาแล้วจะมีความกว้าง 6.9 นิ้ว จอด้านนอกกว้าง 1.04 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 120Hz และมีการตอบสนองการสัมผัส 300Hz เหมือนกันกับตัวโปร และยังใช้ชิป Snapdragon 888 ตัวเดียวกันด้วย รุ่นนี้จะมีสองรุ่นคือ RAM 8GB/ ROM 256GB และ RAM 12GB/ ROM 512GB

เรื่องกล้องของรุ่นนี้ก็ไม่ธรรมดาเลย ถึงแม้ว่าจะมีกล้อง 3 ตัวแต่ก็มีความละเอียด 40MP แบบ True Chroma เลนส์อัลตร้าไวด์ 13MP และเลนส์ Ultra Spectrum ความละเอียด 32MP พร้อมกับเทคโนโลยี HUAWEI XD Optics และ True-Chroma Image Engine เหมือนกับรุ่นโปรเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีโหมด Fluorescence ที่ถ่ายออกมาโดยการใช้แสงสะท้อนจาก UV ทำให้ภาพอีกรูปแบบหนึ่งที่สวยงาม และยังมีฟีเจอร์ Sunscreen Detection ที่คอยเตือนเมื่ออยู่ในสภาพแสง UV ที่เป็นอันตรายต่อผิวด้วย ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 10.7MP แต่สามารถเซลฟี่จากกล้องหลังได้ตอนที่พับลงมาแล้ว กับแบตที่มีความจุ 4,000 mAh รองรับ Fast Charging 40W ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ และดูพรีวิวเต็มได้ที่นี่ เปิดตัวมาในราคา 46,990 บาทในรุ่น RAM 8/256GB และ 57,990 บาทในรุ่น RAM 12/512GB

โทรศัพท์ HUAWEI 2022 ของซีรีส์ P อีกหนึ่งรุ่นที่มาท้ายสุดของซีรีส์เลยเพราะเปิดตัวมาพร้อมกับ HUAWEI Mate Xs 2 โดยรุ่นนี้มีการดีไซน์กล้องหลังแบบ Dual-Matrix Camera Design และมีฝาหลังแบบด้านตัวเครื่องจับถนัดมือกันน้ำระดับ IP68 และมีหน้าจอเป็นแบบ OLED True-Chroma Display ระดับ FHD+ กว้าง 6.5 นิ้วที่มี Refresh Rate 90Hz แบบจอแบนไม่ใช้จอโค้ง มาพร้อมชิป Snapdragon 888 4G แบบเดียวกับ Mate Xs 2 และมี มี RAM 8/256GB เล่นเกมได้สบายๆ ส่วนกล้องหลังมีตัวหลักความละเอียดแบบ True-Chroma 50MP อัลตร้าไวด์ 13MP และ Telephoto แบบ Periscope 12MP รองรับรองรับ HUAWEI XD Optics ถ่ายได้คมชัดและมีความแม่นยำในเรื่องสีสันต่างๆ ถือว่าเป็นน้องๆ รุ่นโปรได้เลย ส่วนกล้องหน้ามี 13MP เซลฟี่ได้สวยเช่นกัน รุ่นนี้มีความจุแบต 4,100 mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 66W

โทรศัพท์ HUAWEI 2022 ในตระกูล nova รุ่นแรกของปีที่เปิดตัวออกมาพร้อมวางขายในราคาเร้าๆ ไม่เกินหมื่นบาท และในตอนนี้ก็ลดเพิ่มลงไปอีกแล้วด้วย โดยรุ่นนี้มีการดีไซน์ตัวเครื่องด้านหลังแบบกระจก 3 มิติที่สะท้อนแสงเหมือนวงแหวนโคจรของดวงดาว และมีเทคโนโลยี Dual-film Dual-plating4 ที่มีความมันวาวสวยงาม ส่วนหน้าจอเป็นขอบบางเพียง 1.05 มม. แบบ TFT LCD (IPS) ระดับ FHD+ กว้าง 6.78 นิ้วใหญ่มากๆ มาพร้อมชิป Snapdragon 680 มาตรฐานการเล่นเกมแบบไหลลื่น และยังมีการระบายความร้อนด้วยกราฟีนระบายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรุ่นนี้ก็เน้นกล้องมาเป็นหลักด้วยกล้องหลังความละเอียด 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP มโคร 2MP และชัดลึก 2MP คมชัดทุกรายละเอียดทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยเทคโนโลยีพิกเซล 9-in-1 หรือจะถ่ายมุมกว้างกับมุมใกล้ก็ทำได้สบายๆ ส่วนกล้องหน้ามี 16MP เซลฟี่ได้เนียนสวยและมีโหมดมุมกว้างเมื่อเปลี่ยนจากแนวตั้งเป็นแนวนอน อีกทั้งยังมี Petal Clip ที่ตัดต่อทำ Vlog ได้จากเครื่องนี้เลยง่ายๆ และมีความจุแบต 4,000 mAh รองรับ SuperCharge 66W ดูสเปคเพิ่มเติมที่นี่

โทรศัพท์ HUAWEI 2022 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีหน้าจอพับได้ที่หลายคนรอคอย และก็ทำออกมาได้ดีมากทีเดียวสำหรับรุ่นนี้ อย่างแรกคือตัวเครื่องนั้นถึงแม้จะเป็นจอพับแต่ก็มีความเบาบาง และเป็นหน้าจอกางออกแบบปีกนก Falcon Wing หมุนได้สองชั้น ส่วนตัวกล้องเมื่อพับหน้าจอจะมาอยู่ในด้านหน้าเหลือเป็นแถบด้านข้างนั่นเอง ส่วนหน้าจอเป็น True-Chroma แบบ OLED 1 กว้าง 6.5 นิ้วตอนพับและ 7.8 นิ้วเมื่อกางออกและมี Refresh Rate 120Hz กับออปติคัลนาโนเลเยอร์กันแสงสะท้อน และใช้ร่วมกับ M-Pen 2s กับการใช้งานแบบ Smart Multi-Window แบ่งจอใช้งานได้ด้วยเช่นกัน มาพร้อมชิป Snapdragon 888 4G ที่มี RAM 8/512GB เล่นเกมได้หายห่วง

ส่วนกล้องหลังก็จัดหนักมาให้ด้วยเลนส์หลักแบบ True-Chroma 50MP อัลตร้าไวด์ 13MP และเทเลโฟโต้ 8MP ที่เก็บรายละเอียดด้วย HUAWEI XD Optics และถ่ายมุมกว้างถึง 120 องศา หรือถ่ายใกล้ๆ ได้ถึง 2.5 ซม. พร้อมกับการซูมออปติคอล 3 เท่ากับการซูมแบบดิจิตอลได้ 30 เท่าเลยทีเดียว แน่นอนว่าการถ่ายกลางวันและกลางคืนก็ยังคมชัดได้ทุกสภาพแสงของจริง ส่วนกล้องหน้ามี 10.7 MP ที่รองรับการเซลฟี่มุมกว้างได้ด้วย รุ่นนี้มีความจุแบต 4,600 mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 66W ใช้งานได้ต่อเนื่องทั้งวัน ดูสเปคเพิ่มเติมที่นี่

มาต่อกันที่โทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นราคาเบาๆ สเปคโดนใจกันอีกรุ่นของ nova Series ที่รุ่นนี้มีฝาหลังแบบมันวาวสะท้อนแสงขอบโค้งมนและมีโมดูลกล้องลงตัวสวยมาก มาพร้อมหน้าจอแบบ TFT LCD ระดับ HD+ กว้าง 6.75 นิ้วใหญ่จัดอีกเช่นกัน แถมยังมีอัตราส่วนมากถึง 90.26% อีกด้วย ซึ่งรุ่นนี้ก็ได้ชิป Helio G35 ที่มี RAM 4/128GB เล่นเกมได้พอไหวถ้าไม่กินสเปคมากนัก กับระบบเสียงด้วยเทคโนโลยี Histen 9.1 และ HUAWEI SuperSound ให้เสียงดีเยี่ยม ส่วนกล้องหลังมีความละเอียดที่ตัวหลัก 48MP อัลตร้าไวด์ 5MP และชัดลึก 2MP ถ่ายได้คมชัดและสามารถถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอแบบเนียนๆ พร้อมกล้องหน้า 8MP ที่มี AI ช่วยทำให้หน้าดูสวยเนียนมากขึ้น และรุ่นนี้ก็ยังมีแบตอึดจัดที่ 6,000 mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 22.5W ดูสเปคเพิ่มเติมที่นี่

โทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวออกมาพร้อมวางขายในปี 2022 นี้กับ HUAWEI nova 10 Series ที่เปิดตัวออกมาพร้อมกับถึง 3 รุ่นคือรุ่น nova 10, nova 10 Pro และ nova 10 SE กับราคาเริ่มต้นแพียงหมื่นกลางๆ เท่านั้น เริ่มด้วยตัว nova 10 SE กันก่อนที่รุ่นนี้มีดีไซน์ต่างจากรุ่นอื่นเพราะมีขอบแบนพร้อมโมดูลกล้องหลังแบบ Star Orbit Ring วงแหวนสุดสวยบนฝาหลัง Starry Flash Craft พื้นผิวสวยงาม ส่วน nova 10 และ nova 10 Pro จะเป็นแบบขอบบางและมีจอโค้งเหมือนกัน พร้อมโอดูลกล้องหลังแบบ Star Orbit Ring วงแหวนที่เปล่งประกายสวยกว่ารุ่นปกติ ส่วนหน้าจอทั้งสามรุ่นเป็น OLED ระดับ FHD+ เหมือนกันต่างกันที่ nova 10 SE กว้าง 6.67 นิ้วกับ Refresh Rate 90Hz, nova 10 กว้าง 6.67 นิ้วกับ Refresh Rate 120Hz และ nova 10 Pro กว้าง 6.78 นิ้วใหญ่สุดพร้อม Refresh Rate 120Hz

มาดูที่ชิปประมวลผลกันบ้างที่ nova 10 SE นั้นใช้เป็นตัว Snapdragon 680G 4G กับ RAM 8/256GB ส่วนอีกสองรุ่นจะใช้ชิปตัวเดียวกันคือ Snapdragon 778G 4G กับ RAM 8/256GB เหมือนกันทั้งสองรุ่น ซึ่งในเรื่องของการใช้งานทั่วไปหรือว่าการเล่นเกมทุกรุ่นสามารถทำได้ดีแน่นอน ตัวตัดสินไปอยู่ที่กล้องที่รุ่น nova 10 SE มีความละเอียดหลัก 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ถ่ายคมชัดสูงด้วยเทคนิค 9-in-1 Pixel Binning มีกล้องหน้า 16MP ถ่ายอัลตร้าไวด์และหน้าหลังพร้อมกันได้

ส่วนอีกสองรุ่นมีกล้องหลังเหมือนกันที่ความละเอียด 50MP อัลตร้าไวด์ 8MP และชัดลึก 2MP ถ่ายคมชัดทุกสภาพแสงที่มี Follow Focus โฟกัสติดตามและถ่ายมาโครได้ตอนถ่ายวิดีโอ และเน้นกล้องหน้าเป็นหลักโดย nova 10 มี Ultra Wide 60 MP ถ่ายได้ระดับ 4K ส่วน nova 10 มีสองตัวคือ Ultra Wide 60 MP และถ่ายบุคคล 8MP มาแบบเทพเลย ปิดท้ายด้วยแบตความจุต่อรุ่นที่ nova 10 SE มี 4500 mAh กับ nova 10 มี 4000 mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 66W เท่ากันแต่ nova 10 Pro มี 4500 mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 100W เลยทีเดียว พร้อมราคาแต่ละรุ่นได้แก่

โทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นที่หลายคนเฝ้ารอคอยกันตั้งแต่ปี 2021 ที่มีข่าวว่าเปิดตัวออกมาแล้ว แต่กลายเป็นรุ่น P50 ที่ได้วางขายก่อนแทน ซึ่งรุ่นนี้ก็ไม่มีกล้องจาก LEICA แล้วด้วยมีสองรุ่นที่น่าสนใจคือ Mate 50 และ Mate 50 Pro ที่มีดีไซน์คล้ายแบบของเดิมที่เป็นวงกลมตรงกลาง ส่วนหน้าจอของ Mate 50 เป็นจอแบน OLED กว้าง 6.7 นิ้วและมี Refresh rate 90Hz กับรุ่น Mate 50 Pro มีจอโค้ง OLED กว้าง 6.74 นิ้วและมี Refresh rate 120Hz พร้อมรอยบากอันใหญ่เพื่อสแกนใบหน้าแบบ 3D โดยทั้งสองรุ่นใช้ชิปตัวเดียวกันคือ Snapdragon 8+ Gen 1 4G ที่มี RAM 8/512GB ส่วนกล้องหลังรุ่น Mate 50 มีตัวหลัก 50MP อัลตร้าไวด์ 13MP และ Periscope 5X 12MP ในขณะที่ Mate 50 Pro มีตัวหลัก 50MP อัลตร้าไวด์ 13MP และ Periscope 3.5X 64MP กับกล้องหน้า 13MP เท่ากัน และมีแบตที่รุ่น Mate 50 4460 mAh กับ Mate 50 Pro มี 4700mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 66W ได้เหมือนกัน ส่วนราคายังไม่มีกำหนดในบ้านเรา

แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลโทรศัพท์ HUAWEI 2022 รุ่นใหม่ล่าสุดในแต่ละรุ่น ทั้งรุ่นที่เปิดตัวออกมาพร้อมวางขายอยู่หลายรุ่น แต่รุ่นที่น่าสนใจหลักๆ ก็คือรุ่นเรือธงอย่าง P50 Pro และ P50 Pocket ที่หลายคนตั้งตารอคอยกันมานาน ซึ่งต้องบอกว่าสเปคทั้งสองรุ่นนี้ทำออกมาได้ดีจริงๆ ในเรื่องของการถ่ายรูป และความเร็วแรงของตัวเครื่อง รวมไปถึงเทคโนโลยีการพับจอที่ดีไซน์ออกมาได้สวยงาม และมีสเปคเทียบตัวโปรได้เลย ส่วนรุ่นที่มีราคากลางๆ และน่าใช้งานมากๆ อีกรุ่นก็คือ nova 10 Series ที่มีทั้งดีไซน์สวย เล่นเกมได้ แถมถ่ายรูปได้แบบสวยงามมากๆ ทั้งหน้าและหลัง ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการใช้งานในงบกลางๆ แต่มีสเปคสูง ส่วน Mate 50 Series นั้นเปิดตัวมาแล้วแต่ก็ยังไม่ได้เอามาวางขายแต่อย่างใดหวังว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ไม่เลื่อนออกไปอีก ก็ต้องรอดูการอัพเดทจาก HUAWEI และข่าวสารต่างๆ พร้อมกัน ถ้ามีเรื่องไหนอัพเดทอีก เราก็จะมาอัพเดทและนำมาฝากกันอีกแน่นอน

รีวิว 13 อันดับ โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี ปี 2022

แม้ว่าโทรศัพท์แบรนด์นี้จะถูกห้ามจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่สมาร์ทโฟนจาก Huawei หลายรุ่นก็ถือเป็นรุ่นที่ดีที่สุดในโลก ในบทความนี้เราจะมาแนะนำคุณสมบัติของแต่ละรุ่นที่น่าสนใจ

หากคุณต้องการหาโทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุด คู่มือฉบับนี้จะช่วยคุณเลือกรุ่นที่ถูกใจได้ เราจะมาแนะนำคุณสมบัติแต่ละรุ่น ในแต่ละราคา ตามงบประมาณที่คุณจัดสรร แต่ก่อนจะไปทำความรู้จักโทรศัพท์เหล่านั้น มีข้อมูลบางส่วนที่คุณควรจะต้องทราบเกี่ยวกับเรื่องราวของแบรนด์นี้

การทำธุรกิจในช่วงแรกของ Huawei เป็นไปด้วยดี มีทั้งผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้ที่ต่างชื่นชมโทรศัพท์ของแบรนด์นี้ โดยเฉพาะคุณภาพกล้องถ่ายรูปที่เหนือชั้น ได้รับความนิยมแซงหน้า Apple และกลายเป็นผู้ขายสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับสองของโลกรองจาก Samsung แต่หลังจากนั้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

ในปี 2019 Huawei ถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อนิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายความว่าการค้าระหว่าง Huawei กับบริษัทสัญชาติอเมริกันจะกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โทรศัพท์ Huawei ในอนาคตจะไม่สามารถใช้แอป Google และจะไม่มี Google Play Store อีกต่อไป

• โทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุด โดยรวม จากการคัดเลือกของทีมงานเรา

• โทรศัพท์ iPhone ที่ดีที่สุด ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน

ในโทรศัพท์ Huawei รุ่นปัจจุบัน คุณจะมีแอปจาก Huawei App Gallery ที่มีอย่างจำกัด แม้ว่าแอปเหล่านี้จะทำงานได้ดี แต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นเพียงการเลียนแบบแอป Google ที่ดีที่สุดเท่านั้น

โทรศัพท์ Huawei รุ่นใหม่ยังคงใช้แพลตฟอร์ม Android เพราะเป็นระบบเปิด ที่ทาง Google ไม่ได้มีธุรกรรมกับทางผู้ผลิตโดยตรง อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนี้ไม่ใช่ทางออกที่ดีของทั้งสองฝ่าย ทาง Huawei จึงพัฒนาระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ของตัวเอง ซึ่งกล่าวกันว่าเจ้าของโทรศัพท์สามารถเปลี่ยนไปใช้ได้ทันที หากถูกบังคับให้เลิกใช้ระบบ Android ในอนาคต

การใช้โทรศัพท์ Android ที่ไม่มีแอป Google ถือเป็นสิ่งที่เป็นอุปสรรคอย่างมาก ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ประสบปัญหานี้อยู่ ก็คงเข้าใจดีว่ามันน่าหงุดหงิดขนาดไหน ส่วนโทรศัพท์ที่เปิดตัวก่อนการแบนจากประเทศสหรัฐอเมริกา จะยังคงสามารถเรียกใช้บริการ Google Play และเข้าถึงการอัปเดตได้

ด้วยเหตุนี้ เราจึงแบ่งรายการรีวิวของเราออกเป็นสองส่วน เริ่มด้วยโทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุดที่ยังคงใช้แอป Google ได้ แม้ว่าโทรศัพท์เหล่านี้จะเก่ากว่าหน่อย ต่ก็ยังมีความสามารถและมีคุณภาพสูง

ส่วนที่สองจะเป็นโทรศัพท์ Huawei รุ่นใหม่ ๆ ที่ได้รับประโยชน์จากการใช้โปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด กล้องที่มีคุณภาพสูง และนวัตกรรมของฮาร์ดแวร์ที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม รุ่นเหล่านี้จะไม่สามารถใช้แอป Google ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก

โทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุด ที่ยังใช้แอป Google ได้

Huawei Nova 8i มาพร้อมกับการออกแบบขอบจอระดับพรีเมียมและสามารถรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว คุณภาพของกล้องนั้นถือว่าทำออกมาได้ดี กล้องหลังประกอบไปด้วยกล้อง 4 ตัว ความคมชัดอยู่ที่ 64MP 8MP และ 2MP อีกสองตัว กล้องหน้าที่มีความละเอียดคมชัดถึง 16MP โดยรวมแล้วการออกแบบตัวเครื่องดูสวยงามน่าใช้

Huawei Nova 8i อาจไม่โดดเด่นมากนักในเรื่องของการเล่นเกมหรือสตรีมเกม เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไม่มีอัตราการรีเฟรชที่ดีมากนัก และไม่มีแผง AMOLED และเมื่อเทียบกับ HUAWEI nova 7i สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีน้ำหนักมากกว่าและมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย และมีความจุแบตเตอรี่ที่มากกว่ารุ่น HUAWEI nova 7i อีกทั้งรุ่นนี้ยังมีความโดดเด่นที่รุ่น 7i ไม่มี คือ ระบบออโต้โฟกัสของกล้องอีกด้วย

Huawei nova 9 มีดีไซน์ที่ดูสวยสะดุดตาพร้อมคุณสมบัติเฉพาะตัว ด้วยหน้าจอโค้งมนดูสวยงานระดับเรือธง พร้อมการชาร์จที่รวดเร็ว 66W และชิปเซ็ต Snapdragon 778G อันทันสมัย ในเรื่องของการออกแบบตัวเครื่องต้องยกให้รุ่นนี้ เพราะมีความเพรียวบางและน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับรุ่น nova 7i และ 8i

การอัปเดต HarmonyOS 3.0 ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องที่ยอดเยี่ยม ความโดดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อยู่ที่หน้าจอการแสดงผลที่คมชัดยอดเยี่ยมที่ 1B พิกเซล ในขณะที่รุ่น 8i อยู่ที่ 18M พิกเซลเท่านั้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลัง และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าพึงพอใจด้วยฟังก์ชั่นการชาร์จที่รวดเร็ว การผสมผสานของคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้ใช้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเกมเมอร์หรือผู้ชื่นชอบการดูหนังหรือวิดีโอบนสมาร์ทโฟน

Huawei P50 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มีน้ำหนักเบากว่าและถือได้สบายกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน ๆ แต่ก็มีหน้าจอที่ใหญ่กว่าและความจุแบตเตอรี่มากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่น P40 Pro อีกทั้งสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนเมือง โดดเด่นในเรื่องของคุณสมบัติในการกันความชื้นและกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 อีกทั้งยังมีคุณสมบัติกันน้ำที่ระดับความลึก 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาทีอีกด้วย

ภายใต้รูปลักษณ์ที่มีสไตล์และทันสมัย Huawei P50 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0 รองรับอินเทอร์เฟซและการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ทันสมัยอย่าง Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, NFC และ USB 3.1 Gen 1 Type-C อีกทั้งตัวเครื่องยังสามารถสแกนลายนิ้วมือซึ่งอยู่บนหน้าจอได้ อีกทั้งยังมอบประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วและแม่นยำ มาพร้อมกับกล้องคุณภาพสูงความคมชัด 50 ล้านพิกเซลพร้อมรูรับแสง f / 1.8 และโฟกัส 23 มม. เลนส์ที่ผลิตโดย Leica ร่วมกับแฟลช LED คู่ รับประกันภาพถ่ายที่ดูสวยงามพร้อมอวดเพื่อน ๆ บนโซเชียลมีเดียได้อย่างไม่ต้องอายใคร

Huawei P50 Pocket เป็นสมาร์ทโฟนเวอร์ชั่นแบบพับได้ของ Huawei P50 มาพร้อมกับแผง OLED ขนาด 6.9 นิ้วซึ่งมอบสีสันที่สมจริงและรองรับการรีเฟรช 120 Hz จึงมอบสีและความอิ่มตัวของสีที่ค่อนข้างดี มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 888 4G

ในส่วนของกล้อง เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องคุณภาพดีมาก สามารถบันทึกวิดีโอ 4K ได้อย่างง่ายดาย ในแง่ของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ โทรศัพท์มีแบตเตอรี่ Li-Po 4000 mAh ซึ่งใช้การชาร์จอย่างรวดเร็ว 40W และยังรองรับการชาร์จแบบย้อนกลับ 5W หากพูดถึงเรื่องตัวเครื่อง ​​P50 Pocket มีฮาร์ดแวร์ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ดูเหมือนว่า Huawei P50 Pocket นั้นจะมีคู่แข่งอย่าง Galaxy Z Flip3 5G โดย Flip มาพร้อมกับระดับ IPX8 แอปและบริการทั้งหมดของ Google ซึ่งทาง P50 Pocket ไม่มี

Huawei nova 7i เป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่ได้ชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนคุณภาพดีในราคาที่ย่อมเยาว์ มีน้ำหนักเพียง 183 กรัม และมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสแบบ capacitive LTPS IPS LCD ขนาดหน้าจอ 6.4 นิ้ว ที่ความละเอียด 1080 x 2310 พิกเซล

สมาร์ทโฟนมาพร้อมกับกล้อง 4 ตัวที่ด้านหลัง ประกอบด้วยกล้องมาโครเฉพาะ 48 MP (มุมกว้าง) + 8 MP (อัลตร้าไวด์) + 2 MP (มุมกว้าง) กล้องด้านหน้ามีความละเอียดที่ 16 MP (มุมกว้าง) เป็นกล้องเดี่ยวที่ให้ HDR สมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถใช้เซ็นเซอร์เพื่อสแกนลายนิ้วมือที่บริเวณด้านข้างตัวเครื่อง ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ Li-Po 4200 mAh แบบถอดออกไม่ได้ แต่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับรุ่น HUAWEI nova 8i สมาร์ทโฟนรุ่นนี้อาจมีความจุแบตเตอรี่ที่ด้อยกว่า และไม่รองรับการชาร์จแบบรวดเร็วเหมือนกับอีกรุ่นด้วย

โดยปกติ เรามักจะแนะนำโทรศัพท์ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในรีวิวของเรา แต่ Huawei เราจัดลำดับใหม่เป็นกรณีพิเศษหลังจากการแบนของสหรัฐอเมริกา ทำให้รุ่นล่าสุดใช้แอป Google หรือ Google Play Store ไม่ได้

ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ ก็สามารถข้ามรีวิวโทรศัพท์รุ่นเก่าไปอ่านต่อที่หมายเลข 5-10 ในรายการรีวิวของเราได้ด้านล่าง แต่หากคุณต้องการใช้แอป Google อยู่ โทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถหาได้ในปัจจุบันคือ Huawei P30 Pro

เนื่องจากรุ่นนี้เปิดตัวก่อนการแบนในเดือนมีนาคม 2019 จึงทำให้คุณสามารถใช้แอปพลิเคชัน บริการ และการอัปเดตด้านความปลอดภัยของ Google ได้อย่างเต็มที่ แน่นอนว่ารุ่นนี้มีอายุสองปีแล้ว และไม่ได้ใช้ Android เวอร์ชันล่าสุด แต่มันก็ยังเป็นโทรศัพท์ที่มีคุณสมบัติน่าประทับใจ

Huawei P30 Pro มีดีไซน์เรียบง่าย สวยงาม รูปทรงเพรียวบาง และมีหน้าจอแบบโค้ง แสดงผลด้วยความละเอียดสูง 1080 x 2340 ระบบกล้องซุปเปอร์ Leica Quad เป็นกล้องคุณภาพชั้นนำระดับโลก ประกอบด้วยเลนส์หลัก 40 MP, เลนส์มุมกว้างพิเศษ 20MP, เลนส์เทเลโฟโต้ 8MP และเลนส์ TOF (time-of-flight) สำหรับการตรวจจับภาพที่ละเอียด ช่วยให้คุณถ่ายภาพคุณภาพเยี่ยมได้แม้ในที่แสงน้อย และยังมีการซูมออปติคอล 5 เท่า ซูมไฮบริด 10 เท่า และซูมดิจิตอล 50 เท่า

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ บวกกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานจากแบตเตอรี่ขนาด 4,200mAh ทำให้รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดในฐานะโทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน อย่าลืมว่ารุ่นนี้ไม่มีช่องเสียบหูฟัง ดังนั้นหากคุณต้องการใช้หูฟังแบบเดิม เราจะขอแนะนะ Huawei P30 แทน (หมายเลข 4)

โทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุดอีกรุ่น ในราคาที่เอื้อมถึงได้

Huawei P30 เปิดตัวพร้อมกับ Huawei P30 Pro (ที่เป็นอันดับหนึ่งในรายการรีวิวของเรา) แต่เป็นรุ่นที่ราคาถูกกว่าและขนาดเล็กลง มีหน้าจอที่เล็กกว่าเล็กน้อย และกล้องด้านหลังน้อยกว่าหนึ่งตัว แต่ก็ยังเป็นโทรศัพท์ที่ใช้งานได้ดีมาก

ราคาโทรศัพท์ของโทรศัพท์รุ่นเก่ามักจะผันผวนค่อนข้างมาก ดังนั้น P30 อาจจะมีราคาใกล้เคียงกับ P30 Pro ได้ในบางร้าน ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น คุณควรจะเลือกรุ่นหลังแทน แต่ถ้าราคาแตกต่างกันมาก โทรศัพท์ Huawei รุ่นนี้ก็คุ้มค่าที่จะพิจารณา

รุ่นนี้มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหมาะสม ช่องเสียบหูฟัง (ที่ P30 Pro ไม่มีแล้ว) ใช้ถ่ายภาพได้ดีในที่แสงน้อย และเครื่องสแกนลายนิ้วมือ นอกจากนี้ ที่สำคัญ คุณยังใช้งานแอป Google ทั้งหมดที่คุณต้องการได้

Huawei Mate 20 Pro เป็นรุ่นที่อยู่ระหว่างโทรศัพท์รุ่นแรกและรุ่นที่สอง ทั้งวันที่วางจำหน่ายและราคา เป็นโทรศัพท์ระดับกลางที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ต้องการเข้าถึงแอป Google

รุ่น Mate 20 Pro เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2018 และยังคงเป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่ยอดเยี่ยมในปัจจุบัน ด้วยจอแสดงผลความละเอียด QHD (1440 x 3120) ระบบการชาร์จแบบไร้สาย เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ สามารถปลดล็อกได้ด้วยการสแกนใบหน้า 3 มิติ และยังมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน นอกจากนี้ ยังมีกล้องด้านหลังที่ยอดเยี่ยมสามตัว พร้อมเลนส์เทเลโฟโต้ 40MP กล้องเลนส์ 8MP แบบเดียวกันกับใน P20 Pro และเลนส์มุมกว้างพิเศษ 16MP

หลังจากเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2018 Huawei P20 Pro ก็กลายเป็นหนึ่งในโทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุด และยังคงใช้งานแอปของ Google ได้อย่างราบรื่น รุ่นนี้เป็นรุ่นยอดนิยมของแบรนด์เมื่อสามปีก่อน และยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าซื้ออยู่ในปัจจุบัน มีราคาเบากว่ารุ่นแรกในรายการ

นอกจากราคาที่สมเหตุสมผลแล้ว Huawei P20 Pro ยังมีกล้องด้านหลัง พร้อมเลนส์สามเลนส์ที่ยอดเยี่ยม คือเลนส์สี 40MP เลนส์ขาวดำ 20MP และเทเลโฟโต้ 8MP พร้อมการซูมแบบออปติคอล 3x นอกจากนี้ยังมีดีไซน์ที่สวยงาม อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดี มีระบบจดจำใบหน้า เครื่องสแกนลายนิ้วมือ และกล้องหน้า 24MP รวมคุณสมบัติทั้งหมดนี้เข้ากับการใช้แอป Google อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้โทรศัพท์ Huawei เครื่องนี้คุ้มค่ามาก สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม อ่านได้จากรีวิว Huawei P20 Pro

โทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุด รุ่นใหม่ สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องพึ่งแอปจาก Google

ถ้าแอป Google ไม่จำเป็นสำหรับคุณ Huawei P40 Pro ก็ถือเป็นโทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุดโดยรวมที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย

โทรศัพท์ Huawei รุ่นนี้อาจจะไม่ใช่รุ่นที่ใหม่ที่สุดในตลาด หลังจากที่เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2020 แต่ก็ยังมีทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับการใช้งานในปี 2022 และปีต่อ ๆ ไป รวมไปถึงการชาร์จแบบไร้สาย และการชาร์จแบบเร็ว สามารถเชื่อมต่อ 5G และ Wi-Fi 6 ได้ มีการออกแบบที่ลงตัว กล้องสี่เลนส์ที่ยอดเยี่ยม และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็น่าประทับใจ

กล้องด้านหลังประกอบด้วยเลนส์ 50MP, 40MP, 12MP และเลนส์ TOF 3D ในขณะที่กล้องด้านหน้ามีทั้งเลนส์ 32MP และเลนส์ TOF 3D IR สำหรับการเก็บรายละเอียด (และทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์จดจำใบหน้า) ใช้โปรเซสเซอร์ Kirin 990 ความเร็วสูงพิเศษ พร้อมหน่วยความจำ 8GB และที่เก็บข้อมูลภายใน 256GB (ขยายเพิ่มได้ผ่าน NM) ทั้งหมดนี้เป็นฮาร์ดแวร์คุณภาพสูง ที่มอบพลังและประสิทธิภาพอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อเสียมีอย่างเดียวคือไม่สามารถใช้แอป Google ได้ แต่ถ้านั่นไม่ได้เป็นปัญหา สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากรีวิว P40 Pro ของเรา

โทรศัพท์ 5G จาก Huawei ที่มีราคาเอื้อมถึงได้

หากคุณไม่ต้องการแอป Google และยังอยากใช้โทรศัพท์ Huawei 5G ที่ดี ในราคาที่ประหยัด ลองพิจารณา P40 Lite 5G

รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่ามาก ๆ เพราะมีหน้าจอขนาดใหญ่ (6.5 นิ้ว) ความละเอียด 1080 x 2400 กล้องสามตัว 64MP และแบตเตอรี่ 4000 mAh อันทรงพลัง โปรเซสเซอร์ Kirin 820 และ RAM ขนาด 6GB ทำให้คุณใช้งานได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น คุณจะยังได้รับการชาร์จอย่างรวดเร็ว 40W เป็นมาตรฐาน ซึ่งทาง Huawei ให้ข้อมูลว่าสามารถให้พลังงานแบตเตอรี่ได้ถึง 70% ในเวลาเพียง 30 นาที

เลนส์ 64MP ที่โดดเด่นของกล้องในรุ่นนี้ยังไม่ใช่ที่สุดของ Huawei แต่ก็มีคุณภาพที่ดีเยี่ยม หากคุณต้องการโทรศัพท์ที่มีการเชื่อมต่อ 5G ในราคาไม่แพง รุ่นนี้คือโทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม อ่านได้จากรีวิว Huawei P40 Lite 5G ของเรา

หากการถ่ายภาพเป็นสิ่งที่คุณชื่นชอบ และคุณต้องการกล้องโทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุด ก็ควรซื้อ Huawei P40 Pro Plus

กล้องด้านหน้าเป็นเลนส์คู่ 32 MP + TOF 3D ซึ่งเป็นคอมโบเดียวกับที่คุณจะพบใน P40 Pro ส่วนกล้องด้านหลังมีเซ็นเซอร์ไม่น้อยกว่าห้าตัว ได้แก่ 50 MP, 40 MP, 8 MP (สองตัว) และ TOF 3D ทำให้เป็นหนึ่งในกล้องโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ภาพถ่ายที่คุณได้จะดูสวย น่าประทับใจ และมีการซูมออปติคอล 10 เท่า สำหรับการถ่ายภาพระยะไกลด้วย

รุ่นนี้เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2020 และใช้ Android 10 จึงเป็นโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพรอบด้าน มีโปรเซสเซอร์ที่รวดเร็ว พื้นที่จัดเก็บ 512GB และการชาร์จแบบไร้สาย จุดเด่นสำคัญคือกล้องถ่ายภาพในตัวที่น่าทึ่ง ทำให้เป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับทุกคนที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องมือหลักในการถ่ายภาพ

หากความสนใจหลักของคุณคือการถ่ายวิดีโอ โทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุดที่เราอยากแนะนำ คือ Huawei Mate 40 Pro

เลนส์ Dual Cine Camera ในรุ่นนี้ มีเซ็นเซอร์ที่ใช้อัตราส่วนการถ่ายภาพแบบโรงภาพยนตร์ 3:2 พลังถ่ายวิดีโอ XD Fusion HDR จะมาจากโปรเซสเซอร์ Kirin 9000 ช่วยปรับปรุงช่วงไดนามิกของฟุตเทจของคุณให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.76 นิ้ว จุใจสำหรับการรับชมสื่อต่าง ๆ ด้วยความละเอียดสูง 2772 x 1344 และอัตราการรีเฟรช 90Hz

นอกจากนี้ยังมี กล้องหลัง 50MP ระบบออโต้โฟกัสที่ดี และคุณสมบัติป้องกันภาพสั่นไหว อายุการใช้งานแบตเตอรี่ในรุ่นนี้ก็ยอดเยี่ยมในฐานะโทรศัพท์ที่เปิดตัวออกมาเมื่อไม่นาน (พฤศจิกายน 2020) รุ่นนี้จึงเป็นโทรศัพท์ Huawei ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายวิดีโอทุกประเภท สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม อ่านรีวิว Huawei Mate 40 Pro ของเรา

Comments

Post Comments